คืบเหตุระเบิดร้านน้ำชาจ.สงขลา จนท.เสียชีวิต3-คาดโยง13แนวร่วมนาทวีที่เข้ารายงานตัว
หลัง กอ.รมน.ยกเลิก พรก.ฉุกเฉินในอ.นาทวี และอ.จะนะ จ.สงขลา เพื่อถ่ายโอนอำนาจจากฝ่ายทหาร ให้ฝ่ายพลเรือนรับผิดชอบพื้นที่ มาตั้งแต่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ช่วงเช้าวันนี้ ก็ได้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้นในอำเภอนาทวี หลังผู้ก่อเหตุนำรถจักรยานยนต์ประกอบระเบิดมาก่อเหตุในเขตเทศบาลตำบลนาทวี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน และบาดเจ็บ 4 คน
หลังเกิดเหตุลอบวางระเบิดบริเวณหน้า บริษัท พิธานพาณิชย์ จำกัด ในเขตเทศบาลตำบลนาทวี อ.นาทวี จ.สงขลา เมื่อเวลา 07.00 น. วันนี้ (28มิ.ย.56) ที่ผ่านมา ทำให้ชาวบ้านที่อยู่ในร้านน้ำชา ใกล้ที่เกิดเหตุ เสียชีวิต 3 คน และบาดเจ็บ 4 คน
เหตุความรุนแรงในอ.นาทวี ครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ยกเลิก พรก.ฉุกเฉิน เพื่อให้อ.นาทวี และอ.จะนะ จ.สงขลา เป็นพื้นที่นำร่องที่มีการถ่ายโอนอำนาจจากฝ่ายทหาร ไปอยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ภายใต้ พรบ.ความมั่นคง ตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม ซึ่งที่ผ่านมามีการตั้งข้อสังเกตจากหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ว่า การก่อเหตุครั้งนี้ เป็นผลมาจาก การที่กลุ่มแนวร่วมในอ.นาทวี 13 คน เข้ารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ เมื่อวานนี้ (27มิ.ย.56) อาจสร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มที่เคลื่อนไหวในพื้นที่
ส่วนที่จ.นราธิวาส เกิดเหตุทหารพราน 4603 กรมทหารพรานที่ 46 ปะทะกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ระหว่างปิดล้อมพื้นที่บ้านยาแลเบาะ หมู่บ้านบอมิ ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เพื่อติดตามแกนนำอาร์เคเค เจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 1 นาย นอกจากนี้ยังควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 4 คน
ขณะที่พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เดินทางลงพื้นที่ติดตามการแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมยืนยันความจำเป็นในการลงพื้นที่ทุกเดือน เพื่อติดตามการแก้ปัญหา และสร้างขวัญกำลังใจให้กำลังพล ทั้งนี้ ยังระบุถึงแผนรักษาความปลอดภัย ช่วงเดือนรอมฎอน เป็นไปตามที่กำหนดไว้ โดยยังไม่เพิ่มมาตรการพิเศษใด
พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวยอมรับว่า ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จนถึงขณะนี้ ยังเป็นปัญหาซับซ้อน ยากจะแก้ไข ต้องใช้เวลาในการดำเนินการ แต่ไม่ได้รู้สึกกังวลต่อการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ก่อเหตุ โดยเฉพาะหลังการยื่นข้อเสนอ 7 ข้อ ที่ฝ่ายไทยยังไม่ตอบรับ