ปรับ ครม.เพื่อภาพลักษณ์ - เสถียรภาพ
การพิจารณาปรับ ครม.ยิ่งลักษณ์ 5 เกิดขึ้นเร็วกว่ากำหนดเกือบเดือนเศษ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ประกาศจะปรับโฉมใหม่ราวต้นเดือนสิงหาคม หรือจังหวะเวลาที่รัฐบาลบริหารราชการบ้านเมืองครบ 2 ปี และด้วยความรวดเร็วฉับไวนี้ จึงกลายเป็นข้อสังเกตถึงสาเหตุที่แท้จริง
รศ.พรชัย เทพปัญญา นักวิชาการอิสระ ด้านรัฐศาสตร์ เชื่อว่าเหตุผลหลักของการปรับ ครม.เป็นการกอบกู้ภาพลักษณ์ของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย แต่เมื่อวิเคราะห์จากรายชื่อผู้เหมาะสมเป็นรัฐมนตรีใหม่ กลับเห็นภาพบุคคลเดิมๆ ที่สลับสับกันเข้า - ออก และโยกเปลี่ยนตำแหน่งกันเท่านั้น
รศ.พรชัย ยังกล่าวถึงภาพสะท้อนในมุมกลับผ่านรายชื่อผู้ที่ถูกคาดการณ์จะเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีบางคนที่เป็นอดีตข้าราชการที่เคยถูกสอบสวนจากการปฏิบัติหน้าที่มิชอบเข้าร่วมงานด้วย จึงอาจเป็นสัญญาณร้ายที่กำลังบอกให้ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ต้องทำงานสนองตอบความต้องการของฝ่ายการเมือง
ขณะที่ พล.อ.เอกชัย ศรีวิลาศ ผู้อำนวยการสำนักสันติวิธีและธรรมาภิบาลมั่นใจว่าการปรับ ครม.ครั้งนี้มีเป้าหมายส่วนหนึ่งที่จะปรับงานด้านความมั่นคง เนื่องจากรัฐบาลมีจุดอ่อนในการบริหาร และรับมือกับปัญหาความมั่นคง รวมถึงความหวังที่จะสร้างความประนีประนอม ระหว่างรัฐบาลกับกองทัพ
โดยเห็นได้จากกระแสที่ว่านายกฯยิ่งลักษณ์ จะนั่งควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อคุมงานด้านความมั่นคงด้วยตัวเอง ซึ่งนอกจากจะเป็นพลเรือนหญิงคนแรกที่จะทำหน้าที่นี้แล้ว ความเป็นสตรีมีบุคลิกอ่อนน้อม จะสามารถเจรจาต่อรองงานในกองทัพได้ราบรื่นกว่าบุรุษ และข้อสังเกตที่บ่งชี้ได้ชัด คือ การนับถ้อยหลังเข้าสู่ฤดูกาลของการแต่งตั้งโยกย้ายที่จะมาถึงในอีก 3 เดือนข้างหน้า
และจากซุ่มเสียงมุมวิเคราะห์นี้ ผนวกกับสถานการณ์ความเป็นจริง จะเห็นว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทย กำลังเผชิญกับ 3 ปัญหาใหญ่ โดยประกอบไปด้วย การพูดคุยเพื่อสันติภาพใต้, โครงการบริหารจัดการน้ำ และโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งปฏิกริยาวันนี้แทบจะต้องชะลอทุกเรื่องไว้ก่อน เพื่อรอการตัดสินใจอย่างเป็นทางการจาก ครม.ยิ่งลักษณ์ 5