พล.อ.เต็ง เส่ง ประธานาธิบดีพม่า ซึ่งอยู่ระหว่างเดินทางเยือนประเทศอังกฤษ กล่าวรับประกันว่าภายในสิ้นปีนี้ (56) พม่าจะไม่มีนักโทษการเมืองเหลืออยู่ รัฐบาลได้ตั้งคณะทำงานชุดพิเศษ ซึ่งจะพิจารณาคดีของนักโทษการเมืองทุกคน ซึ่งเป้าหมายของพม่าคือการเปลี่ยนผ่านประเทศ จากการปกครองโดยทหารไปเป็นระบอบประชาธิปไตย นอกจากนี้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ข้อตกลงหยุดยิงจะเกิดขึ้นทั่วประเทศ และจะถือเป็้นครั้งแรกในรอบกว่า 60 ปี ที่ไม่มีเสียงปืนดังในพม่า ตอนนี้รัฐบาลกำลังเดินหน้าการเจรจาและการประนีประนอมที่ยากลำบาก แต่ทั้งหมดนี้จะต้องทำให้สำเร็จ
ทั้งนี้ นับตั้งแต่ พล.อ.เต็ง เส่ง ขึ้นบริหารประเทศเมื่อ 2 ปีก่อน พม่าได้ทยอยปล่อยนักโทษการเมืองมาแล้วหลายรอบ รวมนักโทษการเมืองที่ได้รับอิสระมีหลายร้อยคน
ก่อนหน้านี้นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีของอังกฤษ เคยขอให้ผู้นำพม่าดูแลปัญหาด้านสิทธิมนุษยชน ควบคู่กับการจัดการปัญหาความขัดแย้งของกลุ่มชาติพันธุ์ โดยระบุว่าอังกฤษเป็นห่วงสถานการณ์ในรัฐยะไข่และชาวมุสลิมโรฮิงญา ซึ่งความขัดแย้งระหว่างชาวพุทธกับชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่เมื่อปีที่แล้ว (55) ทำให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 200 คน การเดินทางเยือนอังกฤษครั้งแรกในรอบ 25 ปีของผู้นำพม่า เน้นหารือถึงความร่วมมือด้านการค้า,การให้ความช่วยเหลือพม่า รวมถึงการส่งเสริมระบอบประชาธิปไตย
ในระหว่างการเยือนมีกระแสต่อต้านผู้นำพม่า โดยผู้ประท้วงรวมตัวหน้าอาคารรัฐสภาและทำหลุมศพจำลอง โดยให้คนสวมชุดและหน้ากากเลียนแบบผู้นำพม่าและอังกฤษ เพื่อประท้วงปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนในพม่า นอกจากนี้ยังมีผู้ประท้วงอีกกลุ่มหนึ่ง รวมตัวหน้าสำนักงานของนายกรัฐมนตรี หน้าบ้านเลขที่ 10 บนถนนดาวน์นิ่ง โดยผู้ประท้วงเรียกร้องให้พลเอกเต็ง เส่ง ปกป้องชาวโรฮิงญา