จนท.เพิ่มความเข้มรักษาความปลอดภัยชายแดนใต้ หลังมีป้ายผ้าก่อกวนวันฮารีรายอ
การกำหนดให้วันสิ้นสุดเดือนถือศีลอด เป็นวันหยุดยาวของส่วนราชการต่างๆ ทำให้โรงแรมหลายแห่งใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ถูกจองเต็มเกือบทั้งหมด คาดมีเงินสะพัดจากการท่องเที่ยว ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท ขณะที่เจ้าหน้าที่ เร่งตรวจสอบที่มาของป้ายผ้า ข้อความโจมตีเจ้าหน้าที่ ที่ถูกนำมาติดตั้งในหลายพื้นที่ เพื่อก่อกวนในวันฮารีรายอ
คุมเข้มความปลอดภัย "วันฮารีรายอ" หลังมีป้ายผ้าตำหนิจนท.ชายแดนใต้
เมื่อวานนี้ (8ส.ค.56) เจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ชายแดนใต้มากขึ้น หลังมีป้ายผ้าภาษารูมี ซึ่งมีข้อความตำหนิการทำงานของเจ้าหน้าที่ ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ถูกนำไปแขวนไว้ รวม 7 จุด ในอ.เทพา และอ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบที่มา เช่นเดียวกับป้ายผ้าที่มีเนื้อหาลักษณะเดียวกัน ที่ถูกนำไปติดไว้ริมถนนหลายสาย ในจ.นราธิวาส, จ.ยะลา และจ.ปัตตานี เพื่อสร้างเหตุก่อกวน ในช่วงวันสิ้นสุดเดือนถือศีลอด หรือที่เรียกว่า วันฮารีรายอ
ส่วนการประกอบศาสนกิจ วันสิ้นสุดเดือนถือศีลอด ในจ.นราธิวาส ตั้งแต่ช่วงเช้า ชาวไทยมุสลิมจำนวนมาก ร่วมละหมาดขอพรจากพระเจ้า ตามมัสยิดต่างๆ และเดินทางไปทำพิธีสวดดูอาร์ ขอพรจากพระเจ้าให้บรรพบุรุษ ที่หลุมฝังศพ ส่วนช่วงบ่าย ได้ร่วมกันบริจาคเงิน หรือที่เรียกว่า ซะกาตเงิน และข้าวสารให้คนยากไร้
ท่องเที่ยว "หาดใหญ่" ในวันฮารีรายอ เริ่มคึกคัก-คาดเงินสะพัด 200 ล้านบาท
ที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา การท่องเที่ยวคึกคักมากขึ้น เพราะส่วนราชการต่างๆ ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ อนุญาตให้วันฮารีรายอ เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้ประชาชนจำนวนมาก ออกไปท่องเที่ยว โรงแรมหลายแห่ง ถูกจองเต็มเกือบทั้งหมด สมาคมโรงแรมหาดใหญ่-สงขลา คาดว่า มีเงินสะพัด ไม่น้อยกว่า 200 ล้านบาท
ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย จำนวนมากได้เดินทางข้ามพรมแดน เข้ามาทางด่านอ.สะเดา เพื่อพักผ่อน และท่องเที่ยวจ.สงขลา ช่วงเทศกาลฮารีรายอ ซึ่งเป็นประเพณีสำคัญของชาวมุสลิมทั่วโลก รวมทั้งเป็นช่วงวันหยุดยาวของประเทศมาเลเซีย โดยจะกระจายไปตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ทั้งในจังหวัดสงขลาและหลายจังหวัดของภาคใต้
การเดินทางเข้าพื้นที่ของนักท่องเที่ยว ทำให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และเจ้าหน้าที่ศุลกากร ต้องตรวจเข้มหนังสือเดินทางและสัมภาระ เพื่อป้องกันการลักลอบนำเข้าสิ่งผิดกฎหมาย รวมถึงผู้ที่ถูกขึ้นบัญชีดำ อาจอาศัยช่วงเทศกาลฮารีรายอ แอบแฝงตัวเข้ามาในประเทศไทย