ประชาธิปัตย์ยืนยันไม่ถกสภาปฏิรูป
หลังได้รับหนังสือเชิญเข้าร่วมระดมความเห็น เพื่อสร้างความปรองดองให้บ้านเมือง ด้วยการปฏิรูปการเมือง และกฎหมาย จากรัฐบาล นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา ยืนยันที่จะเข้าร่วมแลกเปลี่ยนความเห็น โดยจะใช้ประสบการณ์ส่วนตัวเสนอแนวทางเพื่อหาทางออกให้กับประเทศ และมั่นใจว่าแกนนำพันธมิตรฯที่แถลงการณ์ยุติบทบาทเคลื่อนไหวการเมือง จะรับฟังความเห็นของผู้อื่น
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แสดงความรู้สึกเสียดายที่พรรคประชาธิปัตย์ กลุ่มพันธมิตรฯ และ ส.ว.กลุ่ม 40 ปฏิเสธที่จะเข้าร่วมในกระบวนการจัดตั้งสภาปฏิรูป และชี้ว่ารัฐบาลไม่มีความชัดเจน ซึ่งสะท้อนได้ว่าไม่ได้รับฟังข้อเท็จจริง เนื่องจากรัฐบาลย้ำมาเสมอว่าทุกฝ่ายควรเข้ามามีส่วนร่วมกำหนดแนวทาง ส่วนการประชุมแก้รัฐธรรมนูญ และการตรากฎหมายนิรโทษกรรมที่เป็นไปอย่างตรึงเครียดนั้น เกิดจากเจตนาของพรรคประชาธิปัตย์ที่ยึดแนวทาง 1 พรรค 2 ระบบ คือระบบม็อบ และระบบรัฐสภา
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ แถลงยืนยันบทบาทของพรรคที่เป็นไปโดยชอบด้วยระบอบประชาธิปไตย และกล่าวยอมรับว่าประเทศไทยจำเป็นต้องหาทางออกในความเห็นต่างที่เกิดขึ้น และควรปฏิรูปในหลายๆ ด้าน แต่ยังคงย้ำหลักการเดิมที่จะไม่เข้าร่วมเวทีระดมความเห็นของรัฐบาล เนื่องจากเชื่อว่าเป็นเพียงการสร้างภาพ ที่หวังเบี่ยงความสนใจ จากการแก้รัฐธรรมนูญ และการตรากฎหมายนิรโทษกรรม
ส่วนกรณีแกนนำพันธมิตรฯประกาศยุติบทบาทการเคลื่อนไหวต่อต้านระบบการบริหาร ที่ถูกเรียกว่า "ระบอบทักษิณ" นั้น นายองอาจ กล่าวยอมรับในการตัดสินใจ พร้อมยืนยันจะไม่กระทบต่อบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์ทั้งในสภา และนอกสภา
ขณะที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่ม นปช. กล่าวว่า จะติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯต่อไป เพราะในแถลงการณ์ยังเปิดทางให้มวลชนพันธมิตรฯ ได้เคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างอิสระ จึงอาจมีการเปลี่ยนแปลงหลักการหรือแนวทางเดิมไปสู่รูปแบบใหม่ เนื่องจากก่อนหน้านี้ ก็เคยประกาศยุติการเคลื่อนไหวมาแล้ว แต่หลังรัฐประหาร ก็กลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง