ยูเซน โบลต์ เจ้าของสถิติโลกวิ่ง 100 เมตร และ 200 เมตร เเละเจ้าเหรียญทองโอลิมปิก 6 สมัย เเละ 8 เหรียญทองกรีฑาชิงแชมป์โลก ให้สัมภาษณ์ในงานเเถลงข่าว ในศึกกรีฑาไดมอนด์ ลีก ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ด้วยการยืนยันว่า ตัวเขาจะพยายามรักษามาตรฐานของตัวเองเอาไว้ให้ได้เเละเตรียมอำลาวงการกรีฑาหลังจบศึกโอลิมปิกปี 2016 ที่บราซิล ซึ่งเค้าจะมีอายุครบ 30 ปีพอดี
เเละจากการประกาศอำลาวงการล่วงหน้าในครั้งนี้ ส่งผลให้ ในการลงเเข่งรายการต่าง ๆ ต่อจากนี้ โบลต์ จะมุ่งมั่นทำผลงานอย่างเต็มที่ เพื่อเป้าหมายในการประสบความสำเร็จ เหมือนกับตำนานนักกีฬาในอดีตอย่าง มูฮัมหมัด อาลี เเละเปเล่ ซึ่งเป็นความปรารถนาสูงสุดของเจ้าของสถิติโลกวิ่งระยะสั้นรายนี้
ต่อกันที่ความเคลื่อนไหวของศึกโอลิมปิก ล่าสุด ฌาก ร็อค ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรีอไอโอซี ได้เน้นย้ำให้สมาชิกไอโอซี พิจารณาอย่างรอบคอบในการเลือกชาติเจ้าภาพโอลิมปิกปี 2020 นอกจากนั้น ฌาก ร็อค ยังเเสดงความเห็นว่า ทุกคนควรเคารพประเทศรัสเซีย เเละไอโอซีไม่สามารถเเทรกเเซงกิจการภายในประเทศได้ หลังจาก รัสเซียได้ออกกฎหมายริดรอนสิทธิชายรักร่วมเพศ ด้วยการออกคำสั่งห้ามไม่ให้ชายกลุ่มนี้เเสดงออกถึงพฤติกรรมดังกล่าวในที่สาธารณะชน จนเป็นที่วิพากษ์วิรณ์เเละถกเถียงกันในวงกว้าง
เช่นเดียวกับ เยเลน่า อิซินบาเยว่า แชมป์โลกกระโดดค้ำถ่อหญิงวัย 31 ปี ที่เห็นด้วยกับกฎหมายฉบับดังกล่าว เเละได้เตือน นักกีฬาที่จะเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวที่เมืองโซชิ ในรัสเซียปีหน้า (56) ควรเคารพกฎหมาย ห้ามกลุ่มคนรักร่วมเพศแสดงออกในที่สาธารณะ แม้ว่าจะถูกหลายฝ่ายรุมประณามกฎหมายฉบับนี้ก็ตาม นอกจากนั้น รัสเซีย ยืนยันว่า นักกีฬาทุกคนสามารถเข้าร่วมการแข่งขันโซชิ เกมส์ ได้โดยไม่จำกัดรสนิยมเรื่องเพศ แต่ย้ำว่าต้องไม่ละเมิดกฎหมายของรัสเซีย มิฉะนั้นอาจถูกปรับเงินสูงถึงหรือประมาณ 5,000 บาท รวมถึงจำคุก 15 วันหรือส่งกลับประเทศ
โดยฌาก โรค จะหมดวาระในตำแหน่งประธานไอโอซี ที่ครองมานาน 12 ปี ในสัปดาห์หน้า หลังจากการการลงคะเเนนเสียงเลือกชาติเจ้าภาพโอลิมปิกปี 2020 ที่เหลือ 3 ชาติสุดท้ายได้เเก่ กรุงอิสตันบูล ตุรกี กรุงมาดริด สเปน เเละกรุงโตเกียว ญี่ปุ่น โดยการโหวดจะมีขึ้นในวันที่ 7 ก.ย.นี้ที่กรุงบัวไอโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนติน่า