ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เตรียมพิจารณาคำร้องแก้ไขรธน. วันนี้
หลังมีข้อทักท้วงจากฝ่ายค้าน ถึงความเหมาะสมในการนำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยที่มาของ ส.ว. ขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย ฯ ความคืบหน้าในกรณีนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ดำเนินการตามขั้นตอนของรัฐธรรมนูญ ที่กำหนดให้นายกรัฐมนตรี นำร่างกฎหมายขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อม ภายใน 20 วัน โดยยืนยันว่า เป็นการปฎิบัติตามหน้าที่ เพราะผ่านการตัดสินใจของสภาฯมาแล้ว
เบื้องต้นเลขาธิการคณะรัฐมนตรีและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ตรวจสอบความถูกต้องของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มาของ ส.ว.แล้ว โดยขณะนี้ นายกรัฐมนตรี ลงนามในร่างดังกล่าวแล้ว และอยู่ในระหว่างขั้นตอนที่ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ประสานสำนักราชเลขาธิการ สำนักพระราชวัง เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายฯ
ขณะที่ การประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญประจำสัปดาห์ ในวันนี้(2 ต.ค.) คณะตุลาการฯ มีวาระในการพิจารณาคำร้องของ พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ส.ว.สรรหา กับคณะ และคำร้องของ น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม.กับคณะ ที่ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยที่มาของ ส.ว.เข้าข่ายเป็นการล้มล้างการปกครองตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 หรือไม่
ส่วนกรณีที่มีการชุมนุมของกลุ่มมวลชนต่าง ๆ ที่หน้าสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ คณะตุลาการ ยืนยันว่า จะยังประชุมตามนัดหมายเดิม โดยตำรวจจะมีการประเมินสถานการณ์ใกล้ชิด และหากมีการยกระดับการชุมนุม หรือเล็งเห็นว่า อาจมีปัญหาความรุนแรงเกิดขึ้น ก็จะแจ้งให้ทางสำนักงานพิจารณาว่า จะต้องย้ายสถานที่ประชุม ซึ่งอาจจะไปประชุมที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญเดิมย่านพาหุรัด
ขณะที่การประชุมร่วมรัฐสภาวันนี้ (2 ต.ค.) นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา กล่าวว่า จะเป็นการพิจารณาข้อตกลงและสนธิสัญญาระหว่างประเทศ ตามมาตรา 190 ที่ต้องผ่านความเห็นชอบของที่ประชุมร่วมรัฐสภา ซึ่งหากไม่แล้วเสร็จก็จะขยายการประชุมต่อไปในวันที่ 11 ต.ค.นี้
ส่วนการพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 ว่าด้วยข้อตกลงระหว่างประเทศ และร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญมาตรา 68 และ มาตรา 237 ในวาระ 2 นั้น จะยังไม่นำขึ้นมาพิจารณาในการประชุมร่วมรัฐสภา และคาดว่า ภายในเดือน ต.ค.นี้ ก็ไม่น่าบรรจุเป็นระเบียบวาระการพิจารณาได้ทัน เพราะยังมีกฎหมายค้างการพิจารณาอีกจำนวนมาก