ตำรวจตรึงกำลังโดยรอบทำเนียบฯ เข้มงวด
ตำรวจยังตรึงกำลังอย่างเข้มงวดในพื้นที่ที่มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติความมั่นคงภายในราชอาณาจักร โดยเฉพาะพื้นที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งมีการจัดตั้งศูนย์ติดตามสถานการณ์การตัดสินของศาลโลกกรณีปราสาทพระวิหารในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ ก่อนจะมีการปรับแผนโดยจะเป็นการประเมินสถานการณ์วันต่อวัน
ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอสรายงานว่า สำหรับยุทธวิธีที่ตำรวจยืนยันใช้ตั้งแต่ต้น คือในเรื่องของการเจรจา วันนี้ เห็นเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น หลังจากผู้ชุมนุมกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) เดินทางเคลื่อนขบวนมาที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ เป็นครั้งแรกที่ พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเข้าไปเจรจาทำความเข้าใจในพื้นที่ของการชุมนุม แต่ว่าก็ได้รับการปฏิเสธจากกลุ่มผู้ชุมนุม
เป็นการเจรจาครั้งแรก ระหว่างตำรวจกับกลุ่มผู้ชุมนุม คปท. โดย พล.ต.ต.อดุลย์ เข้าไปเจรจาพูดคุยกับแกนนำ คปท. เพื่อทำความเข้าใจ และก็อธิบายถึงพื้นที่ในการชุมนุมขณะนี้ เป็นพื้นที่ที่มีการประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ คือตั้งแต่แยก จปร. เรื่อยไปจนสะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยเนื้อหาในการเจรจาก็เป็นการหาทางออกว่าจะสามารถย้ายเวทีได้หรือไม่
สำหรับแกนนำ คปท.มีการชี้แจงกับตำรวจว่าพื้นที่ที่ชุมนุมอยู่คือพื้นที่ที่ประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ นั่นหมายถึงพื้นที่ที่สงบ ซึ่งการชุมนุมของกลุ่ม คปท.เป็นการชุมนุมโดยสงบเช่นกัน ดังนั้น ข้อเสนอของตำรวจคือให้เคลื่อนขบวนไปที่เวทีสะพานผ่านฟ้าลีลาศ หรือว่าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยจึงต้องตกไป
การดูแลความปลอดภัยที่มีการประเมินสถานการณ์ในขณะนี้จะประเมินแบบวันต่อวัน ตั้งแต่วันนี้ (8 พ.ย.) เรื่อยไปจนถึงวันที่ 11 พฤศจิกายน หรือว่าวันจันทร์ที่จะมีการอ่านคำพิพากษาโลกในคดีปราสาทพระวิหาร ซึ่งเวที คปท.นั้นจะมีการถ่ายทอดสดให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมได้ติดตามอย่างใกล้ชิด
ขณะที่การชุมนุมของกลุ่ม คปท. แม้ว่าในช่วงกลางคืนก็ยังมีการตั้งเวทีปราศรัอยู่อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ในส่วนของการดูแลของตำรวจยังคงเช่นเดิมเหมือนเมื่อวานนี้ โดยเฉพาะในช่วงเวลาวิกาล หรือว่าตั้งแต่กลางคืนไปจนถึงรุ่งเช้า ก็เพิ่มความเข้มงวดในการดูแลรักษาความปลอดภัยอยู่อย่างต่อเนื่องมีทั้งการเสริมแท่งแบริเออร์ปูนเพิ่มขึ้นมา รวมถึงการสร้างตาข่ายที่มีการป้องกันการขว้างปาสิ่งของ และการเสริมแท่งแบริเออร์เพื่อที่จะลดแรงปะทะสำหรับกลุ่มผู้ชุมนุม
ขณะที่ทางกลุ่ม คปท.ยืนยันว่าจะมีการชุมนุมที่บริเวณของแยก จปร.เรื่อยไปจนถึงวันที่ 11 พฤศจิกายน นอกจากนี้ ยังมีการประเมินสถานการณ์เช่นกัน และรอดูท่าทีจากตำรวจ ขณะที่ตำรวจเองระบุว่าด้านของผู้ชุมนุมหากมีการฝ่าฝืนเข้ามาในพื้นที่ที่มีการประะกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ก็จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ แต่ทั้งนี้ยังคงยืนยันเช่นเดิมว่าจะเน้นในเรื่องของการเจรจาเป็นหลัก รวมถึงการดูแลความปลอดภัย และการดูแลการชุมนุมตามหลักสากล