มวลชนทยอยร่วมชุมนุมบนถนนราชดำเนิน ก่อนประกาศมาตรการกดดันรัฐบาล เย็นนี้
วันนี้ (15 พ.ย.) เป็นสุดท้าย ที่มีการประกาศอารยะขัดขืนใน 4 มาตรการ เพื่อคัดค้านร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ถนนราชดำเนิน โดยแกนนำมั่นใจว่า จะมีประชาชนให้ความร่วมมือมากกว่า 2 วันที่ผ่านมา ก่อนจะมีการประกาศมาตราการกดดันในช่วงเย็น วันนี้ (15 พ.ย.)
วันนี้ (15 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอส รายงานว่า บรรยากาศการชุมนุมคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิไตย ในช่วงเช้าวันนี้ค่อนข้างคึกคักกว่า 2 วันที่ผ่านมา โดยส่วนใหญ่จะเป็นมวลชนกลุ่มใหญ่จากต่างจังหวัด รวมถึงภาคคีเครือข่ายชาวสวนยางและปาล์มน้ำมัน 16 จังหวัดภาคใต้ รวมถึงเครือข่ายประชาคมต่างๆ ที่ทยอยเดินทางเข้าร่วมการชุมนมตามที่ได้นัดหมายไว้
สำหรับแนวทางการใช้มาตรการอารยะขัดขืน แกนนำผู้ชุมนุมระบุว่า แนวทางดังกล่าวอาจจะเป็นเรื่องใหม่สำหรับสังคมไทยจึงยังไม่ได้รับความร่วมมือมากนัก ซึ่งคาดว่าวันนี้ (15 พ.ย.) จะมีประชาชนให้ความร่วมมือมากขึ้น
<"">
ขณะที่ เมื่อวานนี้ (14 พ.ย.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้ปราศรัยบนเวทีโดยส่วนใหญ่จะเป็นการกล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในหลายประเด็น และภายในเวลา 18.00 น.จะขึ้นเวทีอีกครั้ง เพื่อประกาศมาตรการกดดันรัฐบาลเพิ่มเติม โดยจะคล้ายคลึงกับการประกาศในวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยจะขอมติจากที่ชุมนุมว่าจะให้ดำเนินการกับรัฐบาลอย่างไรต่อไป นอกจากนี้ ในการปราศรัยวานนี้ (14 พ.ย.) แกนนำผู้ชุมนมยังคงเน้นใน 3 ประเด็น คือ 1.เวทีการชุมนุมครั้งนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกับพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพรรคการเมือง เนื่องจากแกนนำทั้ง 9 คนได้ลาออกจากการเป็น ส.ส.แล้ว 2.การยืนยันใช้มาตรการอารยะขัดขืนต่อไป 3.ยืนยันถึงการต้องการให้ ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมออกจากสารบบของรัฐสภา แม้จะยอมรับว่าไม่มีกระบวนการตามรัฐธรรมนูญที่จะทำได้แต่ให้รัฐบาลคิดหาทางออก