เทศกาล
การปล่อยโคมควันขนาดใหญ่สร้างความตื่นตาตื่นใจแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว ในงานป๋าเวณียี่เป็งเมืองเชียงแสน 4 แผ่นดิน ประจำปี 2556 บริเวณลานด้านหน้า ที่ว่าการอำเภอเชียงแสน จ.เชียงราย โดยชาวเหนือเชื่อว่าการปล่อยโคมควัน หรือโคมลอย ถือเป็นปล่อยทุกข์ ปล่อยโศก รวมทั้งยังเป็นการบูชาพระเกศแก้วจุฬามณีบนสวรรค์ด้วย
เช่นเดียวกับที่จ.กำแพงเพชร ขบวนแห่กระทงจากหน่วยงานและชุมชนต่างๆ เคลื่อนตัวไปตามถนนมุ่งสู่ลานอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย ริมแม่น้ำปิง สถานที่จัดงานประเพณีลอยกระทงธารประทีปในปีนี้ โดยมีชาวต่างชาติที่เดินทางมาเที่ยวเป็นคณะ ร่วมเต้นรำไปพร้อมกับขบวนแห่อย่างสนุกสนาน
ขณะที่ พุทธศาสนิกชนจำนวนมาก ในจ.พิษณุโลก ถือเอาวันลอยกระทง เป็นฤกษยามดีในการนัดหมายกันทำบุญถวายกฐินสามัคคี เพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะที่วัดราชบูรณะ อ.เมืองพิษณุโลก ซึ่งมีชาวพุทธมาทำบุญถวายกฐินสามัคคีมากกว่าทุกปี
ส่วนที่บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ชาวสุโขทัยและนักท่องเที่ยวต่างเฝ้าชื่มชมพระประทีป และกระทงพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานลอย เป็นปฐมฤกษ์ที่สระตระพังตระกวน
ส่วนที่ จ.อุบลราชธานีได้จัดงานบริเวณน้ำมูลท่าน้ำตลาดใหญ่ และวัดสุปัฏนาราม โดยประชาชนส่วนใหญ่เดินทางมาแบบครอบครัวเพื่อมาลอยกระทง ซึ่งต่างอธิษฐานไม่ให้มีโรคภัย และอธิษฐานขอให้ประเทศชาติไม่มีการแบ่งแยก และเกิดความสงบสุข
เช่นเดียวกับที่จ.หนองบัวลำภู ได้จัดขบวนแห่กระทงและนางนพมาศ จากสนามนเรศวรมหาราชไปตามถนนภายในเทศบาลเมือง ขณะที่พ่อค้าแม่ค้าและนักเรียน ต่างพากันรวมกลุ่มทำกระทงใบตอง กระทงขนมปัง กระทงจากเศษวัสดุใบข้าวโพด ซึ่งเป็นวัสดุที่ไม่ทำลายระบบนิเวศน์
ขณะที่ เทศบาลเมืองมหาสารคามร่วมกันสืบสานประเพณีลอยกระทงโดยมีขบวนแห่กระทงทั้ง 30 ชุมชน ประกวดกระทง และ นางนพมาศ เพื่อเป็นการสืบสานประเพณีที่มีมาตั้งแต่โบราณ และเพื่อเป็นการขอขมาพระแม่คงคา โดยมีประชาชนมาเที่ยวกันอย่างคึกคัก
ส่วนที่ ภาคใต้ที่อำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย รวมถึงประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงไปร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทงใช้กระทงที่ประดิษฐ์จากวัสดุธรรมชาติ ทั้งใบตอง ขนมปัง ไปลอยกระทงลงสู่คลองอู่ตะเภา ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่อธิษฐานขอให้บ้านเมืองสงบสุข หลังมีความขัดแย้งทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง
เช่นเดียวกับประชาชนและนักท่องเที่ยว ในจ.กระบี่จำนวนมาก ร่วมประเพณีลอยกระทง ตามท่าเรือบริเวณแม่น้ำกระบี่ และบริเวณหน้าชายหาดอ่าวนางกันอย่างคึกคัก ท่ามกลางการดูแลความปลอดภัยของเจ้าหน้าหน้าที่หลายหน่วยงาน เพื่อเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนหากมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น
ส่วนชาวจ.สุราษฎร์ธานีจำนวนมากทยอยไปลอยกระทง บริเวณริมเขื่อนแม่น้ำตาปีตั้งแต่ช่วงค่ำ ทำให้บรรยายกาศริมแม่น้ำคึกคัก ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ออกตรวจตราดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว ทุกจุดที่จัดให้ลอยกระทง ขณะที่ ชาวจ.ปัตตานีร่วมลอยกระทงริมแม่น้ำปัตตานีตั้งแต่ช่วงก่อนค่ำ เพราะไม่มั่นใจความมั่นใจ ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงที่วางมาตรการรักษาความปลอดภัยเป็นอย่างเข้มงวดมากกว่าทุกปี หลังข้อมูลทางการข่าวระบุว่ากลุ่มแนวร่วมผู้ก่อความไม่สงบพยายามเข้ามาในพื้นที่เพื่อสร้างสถานการณ์