คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินหลวงพ่อคูณ-วัดบ้านไร่ เตรียมลงพื้นที่ 25 พ.ค.นี้

คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินหลวงพ่อคูณและของวัดบ้านไร่ เตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบทรัพย์สินในช่วงสุดสัปดาห์นี้ เพื่อจัดทำบัญชีไว้เป็นหลักฐาน ส่วนการตรวจสอบยอดเงินบริจาคผ่านบัญชีธนาคารจะประสานไปยังธนาคารอีกครั้ง

จากกรณีที่พระราชวิมลโมลี เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินของพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ และของวัดบ้านไร่ ซึ่งมีทั้งพระสงฆ์และฆราวาสร่วมเป็นคณะกรรมการรวม 31 คน

พระราชสีมาภรณ์ รองเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินเปิดเผยว่า เบื้องต้นที่ประชุมมีมติจะลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบทรัพย์สินที่วัดบ้านไร่ในวันที่ 25 พ.ค.2558 โดยขณะนี้ได้ทำหนังสือแจ้งไปยังวัดบ้านไร่ให้รับทราบแล้ว โดยจะตรวจสอบทรัพย์สินภายในวัด เช่น ภายในกุฏิ, อุโบสถ, วิหาร และพิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณ เพื่อทำบัญชีไว้เป็นหลักฐาน ส่วนทรัพย์สินอื่นๆ เช่น บัญชีธนาคาร บัญชีรายรับรายจ่าย บัญชีเช่าบูชาวัตถุมงคล และบัญชีเงินมูลนิธิหลวงพ่อคูณ จะต้องมีการประสานไปยังธนาคาร เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์

ส่วนกรณีที่มีพระผู้ใหญ่ในจังหวัดนครราชสีมาตั้งข้อสังเกตเรื่องการแต่งตั้งพระภาวนาประชานาถ หรือหลวงพ่อนุช อดีตเลขานุการหลวงพ่อคูณ ให้เป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ หลังจากที่หลวงพ่อคูณมรณภาพไม่กี่ชั่วโมง ว่ามีความเหมาะสมหรือไม่นั้น นายธวัฒน์ชัย แสนประสิทธิ์ กำนันตำบลกุดพิมาน อำเภอด่านขุนทดชี้แจงว่า การแต่งตั้งรักษาการเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่เป็นอำนาจของเจ้าคณะตำบล และผ่านมติจากชาวบ้านและคณะสงฆ์วัดบ้านไร่แล้ว

ที่ผ่านมา หลวงพ่อนุช เป็นพระเลขาหลวงพ่อคูณมาตั้งแต่ปี 2511 และดำเนินการสร้างวัดบ้านไร่มาโดยตลอด เป็นพระนักพัฒนา และเป็นที่ยอมรับของชาวบ้านไร่ และชาวอำเภอด่านขุนทด อีกทั้งการแต่งตั้งก็เป็นไปตามระเบียบของสงฆ์