ทีมสัตวแพทย์ แบ่งคณะทำงาน เพื่อเร่งคลี่คลายสาเหตุการตายของกระทิงกว่า 10 ตัว หลังมีคำสั่งปิดอุทยานแห่งชาติกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์อย่างไม่มีกำหนด เพื่อป้องกันโรคระบาดไปยังนักท่องเที่ยว ขณะที่เจ้าหน้าที่ ได้เข้าเก็บตัวอย่างน้ำ และดินโป่ง ในพื้นที่ต้องสงสัยไปตรวจสอบอีกครั้ง
ทีมจากสำนักวิจัยสัตว์ป่า พร้อมเจ้าหน้าที่กรมควบคุมมลพิษ เข้าเก็บตัวอย่างน้ำและดินโป่ง ภายในพื้นที่เกิดเหตุ 6 ตารางกิโลเมตร กว่า 3,700 ไร่ ในโครงการฟื้นฟูสภาพป่าสงวนแห่งชาติป่ากุยบุรี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีนายปรีชา วิทยพันธุ์ อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ร่วมนำเสนอข้อมูล
ก่อนที่จะเดินทางไปทำงานที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช หลังได้รับคำสั่งให้ย้ายกระทันหัน โดยตั้งแต่วันนี้ (26 ธ.ค.) เป็นต้นไปอุทยานแห่งชาติกุยบุรี จะปิดให้บริการอย่างไม่มีกำหนด จนกว่าจะทราบผลการตายของกระทิงทั้ง 16 ตัว เพื่อป้องกันนักท่องเที่ยว หากมีโรคระบาดที่อาจติดจากสัตว์สู่คนได้
ส่วนที่ทำการอุทยานแห่งชาติกุยบุรี นายสัตว์แพทย์ วงศ์อนันต์ ณรงค์วานิชการ หัวหน้ากลุ่มชีวเคมีและพิษวิทยา สถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ กรมปศุสัตว์ ได้ประชุมร่วมกับทีมสัตวแพทย์ จากสถาบันต่างๆ 15 คน เพื่อร่วมกันวางแผน เข้าไปเก็บตัวอย่าง ซากกระทิง สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลทางการนิติวิทยาศาสตร์
เบื้องต้น ทีมสัตวแพทย์จะแบ่งออกเป็น 4 ทีม โดยตรวจพิสูจน์ และผ่าซากกระทิงทั้งหมด 14 ตัว ที่ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ โดยจะเก็บตัวอย่างหลักๆ ทั้งชิ้นเนื้อจากอวัยวะบางส่วน, เลือดในกระดูกสันหลัง และเศษอาหาร ที่ตกค้างอยู่ในกระเพาะ รวมถึงวัตถุพยานแวดล้อมอื่นๆ ซึ่งตัวอย่างชิ้นเนื้อที่เก็บ จะถูกส่งไปตรวจวิเคราะห์ที่ห้องแล็ป เพื่อหาสาเหตุการตาย โดยคาดว่า จะทราบผลในเดือนมกราคมปีหน้า
ไทยพีบีเอสใช้คุกกี้