วันนี้ (23 ก.พ.2559) องค์คณะตุลาการศาลปกครองนัดไต่สวน คำร้องให้ระงับธนาคารกรุงเทพ จ่ายแบงก์การันตีค่าประมูลทีวีดิจิทัล 1,700 ล้านบาท ของนางพันธุ์ทิพา ศกุนต์ไชย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยทีวี ภายหลังเข้าร่วมการไต่สวนของศาลปกครองนานเกือบ 3 ชั่วโมง นางพันธุ์ทิพา ได้แถลงต่อองค์คณะตุลาการศาลปกครองเกี่ยวกับข้อผิดพลาดที่เกิดกับ กสทช.จำนวน 11ประเด็นที่ก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อบริษัท ซึ่งความเสียหายที่เกิดขึ้น ทางบริษัทไทยทีวีจึงได้แจ้งยกเลิกสัญญาประกอบกิจการ ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค.2558 และถือว่าบริษัทไม่มีหน้าที่ต้องจ่ายค่าประมูลทีวีดิจิทัลงวดที่ 2 หรืองวดใดๆ อีก เพียงแต่ขณะนั้น บริษัทยังต้องรักษาหน้าจอโทรทัศน์ของทั้ง 2 ช่อง คือ ไทยทีวีและโลก้า ให้ออกอากาศต่อไปก่อนตามคำร้องขอของ กสทช.
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทไทยทีวี กล่าวอีกว่าแต่ครั้งนี้ กสทช. มีแนวโน้มต้องการยึดหลักทรัพย์ค้ำประกัน (แบงก์การันตี) โดยหนังสือแจ้งมาถึงบริษัทเมื่อ 12 ก.พ.2559 ทางบริษัทจึงต้องยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวห้ามธนาคารกรุงเทพ ในฐานะสถาบันการเงินผู้ค้ำประกันให้บริษํท ไทยทีวี จ่ายเงิน ซึ่งมีมูลค่าเท่ากับหลักทรัพย์ค้ำประกันให้ ทาง กสทช. รวมมูลค่าที่เหลือกว่า 1,748 ล้านบาท
เพื่อบรรเทาความเสียหายของ ริษัท รวมทั้งจะกระทบต่อธุรกิจของบริษัททีวีพูล และธุรกิจที่ทำอยู่ โดยเชื่อมั่นว่า กสทช. เป็นฝ่ายผิด เพราะมีผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลอีก 7 ช่อง ยื่นฟ้องในประเด็นเดียวกัน
ด้าน น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสทช. ระบุว่า วันนี้ต่างฝ่ายต่างให้เหตุผลในการสู้คดี ซึ่งไทยทีวีจะต้องส่งเอกสารเพิ่มเติม ซึ่งเป็นเอกสารที่จะต้องแสดงให้ศาลเห็นว่าเกิดความเสียหายต่อบริษัทอย่างไร เป็นมูลค่าเท่าไหร่บ้าง ซึ่งบริษัทจะต้องไปรวบรวมมาให้ทางศาลปกครองอีกครั้ง ประเด็นหลักวันนี้ องค์คณะตุลาการสอบถามประเด็นเดียวว่าหากศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ตามที่บริษํทไทยทีวีร้องขอนั้น ทาง กสทช.จะเกิดความเสียหายหรือมีผลกระทบอย่างไรเกิดขึ้นบ้าง ซึ่งได้อธิบายให้ศาลทราบว่า จะเกิดความเสียหายมาก รวมทั้งส่งผลกระทบต่อการบริหารของ กสทช. หากศาลสั่งคุ้มครองให้ไทยทีวีอาจกระทบกับช่องอื่นๆ ที่มีอีก 22 ช่อง อาจใช้เหตุผลเดียวกัน เพื่อไม่ต้องจ่ายเงินประมูลงวดที่เหลืออยู่ รวมทั้งอาจมีผลต่อการจัดประมูลของงานฝั่งโทรคมนาคมที่ กสทช.เพิ่งเสร็จการประมูล 4 จี ด้วย อาจทำให้เกิดการไม่จ่ายเงินประมูลในงวดถัดๆ ไปได้ รวมถึงอนาคตหากมีการจัดประมูลแล้วเอกชนแข่งเคาะราคากันในราคาสูงๆ แล้วสุดท้ายไม่ต้องจ่ายงวดที่เหลือ โดยอ้างจาการพิจารณาคดีนี้ก็จะยิ่งส่งผลกระทบต่อรายได้ของแผ่นดิน ที่เกิดจากการประมูล และการจัดเก็บรายได้
ส่วนความคืบหน้าการแก้ปัญหาของ กสทช. ศาลยังไม่ได้พิจารณา โดยระบุว่าอยู่ในระหว่างการแสวงหาข้อเท็จจริง วันนี้การไต่สวนศาลเน้นเฉพาะประเด็นการคุ้มครองเรื่องการยึดแบงก์การันตีเท่านั้น และให้ความสำคัญกับประเด็นความเสียหายที่จะเกิดขึ้นระหว่างความเสียหายของเอกชน และความเสียหายของรัฐ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้องค์คณะตุลาการศาลปกครองไต่สวนได้ร่วมพิจารณาการไต่สวนจำนวน 2 องค์คณะในคดีนี้ ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าการพิจารณาหากต้องลงมติก็ต้องมีเสียงส่วนใหญ่อย่างน้อย 4 ต่อ 2 ต่อความเห็นในคำสั่งที่จะออกมา