วานนี้ (1 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอสรายงานว่า เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองสนั่นรักษ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ลงพื้นที่ตรวจสอบถนนทรุดตัว ลึกกว่า 4 เมตร ยาวกว่า 120 เมตร เจ้าหน้าที่คาดได้รับผลกระทบมาจากปัญหาภัยแล้ง ถนนคลอง 13 จ.ปทุมธานี ทรุดลึก 4 เมตร
นางฐิตินันท์ เจริญอาจ ปลัดเทศบาลเมืองสนั่นรักษ์ จ.ปทุมธานี ตรวจสอบถนนทรุด บริเวณถนนเลียบคลอง 13 มุ่งหน้าลำลูกกา ฝั่งตะวันออก อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ที่ทรุดตัวลึก 4 เมตร ยาวกว่า 120 เมตร และเกิดรอยร้าวช่วงหัวและท้ายถนนที่ทรุด ทำให้เจ้าหน้าที่กรมทางหลวงชนบทต้องปิดถนนกั้นและประกาศเป็นพื้นที่อันตราย
นางฐิตินันท์เปิดเผยว่า ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ระดับน้ำในคลองลดระดับลง และเกิดรอยร้าวตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยจุดที่ทรุดตัวอยู่ห่างจากจุดถนนทรุดที่เคยเกิดเหตุเมื่อปลายปี2558 ประมาณ 500 เมตร หากประชาชนพบรอยร้าวบริเวณถนนซึ่งมีความเสี่ยงการทรุดตัวของถนน สามารถเเจ้งมาได้ที่ 1146 สายด่วนทางหลวง ชนบท และ 02-5462193
ส่วนสถานการณ์ภัยแล้งทั่วประเทศในขณะนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. เป็นช่วงที่รัฐบาลประกาศเดินหน้าปฏิบัติการฝนหลวงอีกครั้ง เพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้ง เมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดนครสวรรค์ วางแผนนำเครื่องบินขึ้นทำฝนหลวง ช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยแล้ง ตั้งเเต่วันที่ 1 มี.ค.-31 ต.ค.นี้
เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดนครสวรรค์ วางเเผนออกปฏิบัติการฝนหลวงรวมระยะเวลา 8 เดือน แต่สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย จึงไม่สามารถขึ้นบินทำฝนหลวงได้ ขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติฝนหลวงเชียงใหม่ และพิษณุโลกเตรียมความพร้อมขึ้นบินทำฝนหลวงทันที หากสภาพอากาศเอื้ออำนวย
ด้านเจ้าหน้าที่ หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.พิษณุโลก คาดว่าความชื้นที่เหมาะสมทำฝนหลวงอยู่ในช่วงปลายเดือนมีนาคม เเต่เกิดปัญหาหมอกควันจากไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ ทำให้ต้องปรับเปลี่ยนสูตรการทำฝนหลวง เป็นกรณีพิเศษ
ส่วนที่จังหวัดพะเยา นายนิมิต วันไชยธนวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ตรวจสอบโครงการก่อสร้างฝายน้ำล้น บ้านร่องปอ ต.ดงเจน อ.ภูกามยาว หนึ่งในโครงการตามมาตรการเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือปัญหาภัยแล้ง ซึ่งใช้งบประมาณ 2 แสนบาท สร้างฝายกักเก็บน้ำสำหรับชาวบ้าน 185 ครัวเรือน