แฟนคลับ 100 คน รอคอยข้ามคืน เพื่อรอวินาทีที่จะขึ้นไปสบตาและส่งยิ้มให้ 5 หนุ่มวง EXO พร้อมขอลายเซ็นในโอกาสที่หนุ่มๆ มาเปิดตัวสาขาใหม่ของผลิตภัณฑ์ความงามจากเกาหลีใต้ แต่แค่ความรักอย่างเดียวไม่พอ เพราะกว่าจะได้ใกล้ชิดแบบนี้ก็ต้องพึ่งทั้งโชคและทรัพย์ที่แต่ละคนต้องซื้อของให้ครบกำหนดเพื่อแลกกับคูปอง ทำให้แฟนคลับอีกพันกว่าคนที่ไม่มีทุนหนามากได้เพียงรออยู่ห่างๆ อย่างแฟนคลับวัยมัธยมกลุ่มนี้ ได้พื้นที่ข้างหน้าสุดของรั้วกั้น เพราะว่ามารอกันตั้งแต่เวลา 03.00 น. ของวันที่ 8 มี.ค.2559 แม้จะอยู่ไกลเห็นศิลปินไม่ชัด แต่โอกาสนานทีมีหนก็ต้องมาสนับสนุน
แฟนเพลงล้นถนนเหมือนกันตอน ยุนอา สมาชิกดังวงเกิร์ลส์เจเนอเรชั่น ไปไต้หวันปลายปีที่แล้ว เธอไปโปรโมต Event ให้เสื้อผ้าแบรนด์นึง เก็บภาพเซลฟี่จากด้านบนของอาคารลงมา ทำให้เห็นว่ามีแฟนคลับรออยู่ด้านล่างกว่า 1,000 คน ซึ่งรถที่วิ่งผ่านไปมาต้องระมัดระวังกันมาก แทบปิดถนนกันเลย
น่าสนใจว่าเมื่อเป็นงานที่นอกเหนือจากคอนเสิร์ตหรือผลงานเพลงแล้ว การโปรโมตหรือรับเป็นพรีเซ็นเตอร์ต่างๆ มักจัดให้โชว์ตัวในที่สาธารณะ เพื่อขยายฐานลูกค้า และที่สำคัญคือเป็นกระแสแบบปากต่อปากได้ข่าวใหญ่แน่นอน ภาพความชุลมุนแบบนี้เกิดขึ้นทั่วไปทั้งในไทย เกาหลี และหลายประเทศที่มีกลุ่มแฟนคลับติดตาม
อีกคนที่ติดตามทั้งงานเพลงเกาหลี และตามศิลปินที่ชอบไปถึงแดนโสม คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง ถึงขั้นเคยบอกเล่าประสบการณ์ในหนังสือหนังสือ "SORRY, SORRY ขอโทษครับ…ผมเป็นติ่ง" ก็วิเคราะห์ว่ารูปแบบการจัดงานของศิลปินเกาหลีนั้นมีหลายแบบ ซึ่งผู้จัดก็จะต้องรู้จักลักษณะและพฤติกรรมของแฟนคลับเป็นอย่างดี
ปฏิเสธไม่ได้ว่ากว่าจะได้เห็นหน้าคนดังในดวงใจ ก็ต้องเตรียมเสียตังค์กันล่วงหน้าเกือบครึ่งปี ถ้าคิดจะไปแฟนมีตติ้ง หรือคอนเสิร์ต หรือบางทีมีเงินก็ใช่ว่าจะจองทัน เลยไม่แปลกที่เวลาไอดอลมาโชว์ตัวในงานที่ไม่ต้องซื้อบัตร หรือจับจองอะไร ทำให้แฟนคลับมากันจำนวนมาก เพราะเน้นลงแรง มานอนรอ กางร่มรอ ขอเจอ ส่วนใครจะได้หน้าสุดก็อยู่ที่ความพยายามล้วนๆ
สำหรับรูปแบบการจัดงานของเกาหลีที่เราคุ้นเคย มีทั้งคอนเสิร์ต แฟนมีตติ้ง แฟนsign หรือแจกลายเซ็น และ hi-touch หรือ สัมผัสมือ ซึ่งแต่ละงานค่าบัตรไม่เท่ากัน และยังมีการแยกย้ายโชว์ตัวเดี่ยวๆ เพื่อผลงานอื่นอย่างหนัง หรือละคร