วันนี้ (16 มี.ค.) นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมมติ กสทช. รับทราบคำสั่งศาลปกครองกลาง ที่คุ้มครองมาตรการเยียวยาผู้ใช้งานของเอไอเอส ที่ใช้สัญญาณรุ่นเก่าในระบบ 2 จี ให้สามารถใช้งานต่อได้ จนถึงวันที่ 14 เม.ย. 2559 โดยศาลปกครอง เห็นว่า กสทช. ต้องแจ้ง เอไอเอส ในฐานะผู้ให้บริการแจ้งต่อลูกค้า เพื่อให้ทราบถึงช่วงเวลาที่ต้องหยุดบริการสัญญาณ 2 จี ไม่น้อยกว่า 30 วัน เพื่อให้ประชาชน โอนย้ายได้ทัน
เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า กสทช. ได้แจ้งให้เอไอเอารับทราบแล้ว ตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค. 2558 ซึ่งเป็นวันที่ กสทช. รับรองผลให้ผู้ชนะการประมูลคลื่น 900 เมกะเฮิร์ตซ แต่ศาลพิจารณาแล้วว่าการแจ้ง กสทช. ครั้งนั้น ไม่ใช่เป็นการออกคำสั่งเพื่อให้ปฏิบัติแต่เป็นการแจ้งเพื่อทราบ และกสทช. เพิ่งแจ้งเป็นคำสั่งให้เอไอเอสทราบ เพื่อให้ลูกค้าโอนย้ายล่วงหน้าแค่ 2 วัน หรือ เมื่อวันที่ 14 มี.ค. 2559 ที่ผ่านมา ก่อนซิมดับเท่านั้น เป็นระยะเวลากระชั้นมากเกินไปทำให้ได้รับผลกระทบต่อผู้ใช้งาน อย่างไรก็ตามอนาคต กสทช. จะปรับหลักเกณฑ์ว่าหลังชนะประมูลและจ่ายเงินประมูลได้จะสามารถรับใบอนุญาตประกอบกิจการได้หลังพ้น 30 วันไปแล้ว เพื่อให้ผู้ประกอบการที่ถือครองคลื่นความถี่เดิมมีระยะเวลาแจ้งลูกค้าให้โอนย้ายเครือข่าย
ขณะนี้ สิทธิการใช้งานคลื่น 900 เมกะเฮิร์ตซ ยังเป็นของ บริษัท ทรูมูฟเอช ยูนิเวอร์แซล และ บริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ แต่สำหรับการใช้คลื่น 900 เมกะเฮิร์ตซ ตามคำสั่งศาลปกครองนั้น แม้ว่าศาลไม่ได้กำหนดว่า ให้ เอไอเอสใช้ของ บริษัท ทรูฯ หรือ บริษัท แจสฯ แต่กสทช. พิจารณาว่าให้ใช้คลื่นความถี่ของ บริษัท แจสฯ จำนวน 6.9 เมกะเฮิร์ตซ ตามความต้องการของเอไอเอส เนื่องจากหากจะใช้ช่วงคลื่นความถี่ของทรูฯ จะต้องเสียเวลาในขั้นตอนเชื่อมโยงสัญญาณระหว่างสองโครงข่าย
สำหรับรายได้ที่เกิดจากการขยายมาตรการเยียวที่ลูกค้าของเอไอเอส มีสิทธิ์ใช้คลื่นความถี่ต่ออีก 30 วันนั้น เลขา กสทช. ระบุว่า เอไอเอส ต้องเป็นผู้นำส่งรายได้ หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าเช่าโครงข่ายให้กับ กสทช.
สำหรับ กรณีการใช้คลื่นความถี่ของ บริษัท แจสฯ ให้บริการไปก่อนนั้น ยืนยันว่า จะไม่ส่งผลกระทบต่อการรับใบอนุญาตของ บริษัท แจสฯ หากมีการจ่ายเงินประมูล 4 จี คลื่น 900 เมกกะเฮิร์ตซ งวดแรกได้ทันภายในวันที่ 21 มี.ค.นี้ แต่การรับใบอนุญาตจะไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อคำสั่งของศาลปกครองและทางคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) จะลงมติอีกครั้งว่าจะมอบใบอนุญาตให้ ริษัท แจสฯ เมื่อใด
นางสาววิไล เคียงประดู่ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส ส่วนงานประชาสัมพันธ์ เอไอเอส ระบุว่า เอไอเอส มั่นใจว่า ลูกค้าจะสามารถโอนเครือข่ายได้ทันในระยะเวลา 30 วัน ตามคำสั่งศาลปกครอง โดยขณะนี้สิ่งที่เอไอเอสดำเนินการ คือ การตั้งโต๊ะที่องค์การบริหารส่วนตำบลทุกตำบล จำนวน 5,335 แห่ง ทั่วประเทศ และเทศบาลตำบล 2,440 แห่ง เพื่อให้ลูกค้าที่มีซิมโทรศัพท์ ระบบ 3 จี ที่ใช้เครื่องรุ่นเดิม 2 จี ไปแลกเครื่องใหม่ได้ ตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค. 2558 ซึ่ง ขณะนี้ มีผู้ที่ยังไม่แลก 700,000 เลขหมาย ทั้งนี้ ลูกค้าที่ใช้สัญญาณรุ่นเดิม 2 จี ที่ส่วนใหญ่ เครื่องโทรศัพท์ ยังเป็นระบบปุ่มกดนั้น ให้ตรวจสอบว่าตัวเองใช้ซิมระบบ 2 จีหรือไม่ โดยกด *545# แล้วโทรออก เพื่อจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนหากไม่ต้องการให้เกิดปัญหาซิมดับ