ราฟาเอล กอร์เรอา ประธานาธิบดีเอกวาดอร์กล่าวระหว่างลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตจะเพิ่มสูงขึ้นอีก เพราะยังมีคนอีกจำนวนมากติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง
เหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.8 เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 เม.ย.2559 ตามเวลาท้องถิ่นเอกวาดอร์ ทำให้หลายเมืองในฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกได้รับความเสียหาย มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก หลังเกิดเหตุ ประธานาธิบดีกอร์เรอาได้ยกเลิกการเดินทางเยือนอิตาลีกลางคันและเดินทางกลับประเทศทันที
ล่าสุดวันนี้ (18 เม.ย.) ทางการเอกวาดอร์ระบุว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวเพิ่มเป็นอย่างน้อย 413 คนแล้ว โดยในจำนวนผู้เสียชีวิตมีชาวต่างชาติรวมอยู่ด้วย ได้แก่ ชาวแคนาดา 2 คนและโคลัมเบีย 5 คน ขณะที่ทีมกู้ภัยยังคงเดินหน้าค้นหาผู้รอดชีวิต ส่วนสมาชิกในครอบครัวของผู้สูญหายต่างพากันค้นหาญาติพี่น้องตามซากปรักหักพัง มีรายงานว่าทีมกู้ภัยนานาชาติจากสวิตเซอร์แลนด์ สเปนและอีกหลายชาติในภูมิภาคละตินอเมริกาเดินทางถึงเอกวาดอร์แล้วเพื่อเข้าร่วมภารกิจการค้นหาผู้รอดชีวิต
สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ทีมกู้ภัยสามารถช่วยชีวิตเด็กหญิงได้ 1 คนที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังนานถึง 20 ชั่วโมงในเมืองพีเดอร์นาเลส (Pedernales) ซึ่งได้รับความเสียหายอย่างหนักจากเหตุแผ่นดินไหว
ประธานาธิบดีกอร์เรอาเปิดเผยอีกว่า การฟื้นฟูความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้อาจสูงถึงหลายพันล้านดอลลาร์
ธรณีพิบัติภัยครั้งใหญ่นี้เกิดขึ้นในขณะที่เอกวาดอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในชาติผู้ผลิตน้ำมันกำลังเผชิญกับผลกระทบจากราคาน้ำมันโลกที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าอุตสหกรรมน้ำมันส่วนใหญ่ของเอกวาดอร์จะรอดพ้นจากภัยพิบัติในครั้งนี้ แต่โรงกลั่นน้ำมันหลักในเมืองในเมืองเอสเมรัลดาส (Esmeraldas) ต้องระงับการผลิตเพื่อความปลอดภัย ขณะที่การส่งออกกล้วย ดอกไม้ โกโก้และปลาต้องหยุดชะงักไปด้วยเนื่องจากถนนได้รับความเสียหายและตกค้างอยู่ที่ท่าเรือ