ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ผล ‘สำรวจสันติภาพ’ รอบแรก พบประชาชนในพื้นที่ยังคงคาดหวังต่อการพูดคุยสันติภาพ

ภูมิภาค
17 พ.ค. 59
10:36
170
Logo Thai PBS
ผล ‘สำรวจสันติภาพ’ รอบแรก พบประชาชนในพื้นที่ยังคงคาดหวังต่อการพูดคุยสันติภาพ
15 องค์กรทั้งในและนอกพื้นที่ชายแดนใต้ เผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อกระบวนการสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้ (Peace Survey) รอบแรก พบผู้คนส่วนใหญ่ยังคงสนับสนุนการพูดคุยสันติภาพเป็นแนวทางแก้ไขปัญหาในพื้นที่ แม้ว่าจะมีความคืบหน้าไม่มากนักก็ตาม

วันนี้ (17 พ.ค.2559) ผู้แทนของสถาบันทางวิชาการและองค์กรประชาสังคม 15 องค์กร ร่วมกันแถลงข่าวผลการสำรวจความคิดเห็นประชาชนต่อกระบวนการสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้ (Peace Survey) กับสื่อมวลชน สมาชิกองค์กรประชาสังคม นักวิชาการ และเจ้าหน้าที่รัฐ

 

15 องค์กรทั้งในและนอกพื้นที่ชายแดนใต้เผยผลสารวจความคิดเห็นของประชาชนต่อกระบวนการสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้ (Peace Survey) รอบแรก

15 องค์กรทั้งในและนอกพื้นที่ชายแดนใต้เผยผลสารวจความคิดเห็นของประชาชนต่อกระบวนการสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้ (Peace Survey) รอบแรก

15 องค์กรทั้งในและนอกพื้นที่ชายแดนใต้เผยผลสารวจความคิดเห็นของประชาชนต่อกระบวนการสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้ (Peace Survey) รอบแรก

 

การสำรวจความคิดเห็นประชาชนต่อกระบวนการสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ที่จะสะท้อนเสียงของประชาชนในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ว่ามีความคิดเห็นและความรู้สึกอย่างไร ต่อกระบวนการสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้/ปาตานีที่เกิดขึ้น เพื่อให้รัฐบาลกลุ่มขบวนการต่อสู้ปาตานีหรือกลุ่มผู้ที่เห็นต่างจากรัฐ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และสาธารณชนได้รับรู้ความต้องการของประชาชน ซึ่งจะเป็นข้อมูลสำคัญในการกำหนดทิศทางการแก้ไขปัญหาให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

การสำรวจครั้งนี้ถือเป็นการครั้งแรกที่มีการร่วมงานขององค์กรทางวิชาการและองค์ประชาสังคม 15 หน่วยงาน และผ่านการมีส่วนร่วมกับหลายฝ่ายตั้งแต่การคิดโจทย์คำถามร่วมกันไปจนถึงลงสนามเก็บข้อมูลในพื้นที่ มีการสุ่มตัวอย่างโดยละเอียดลงลึกไปถึงระดับครัวเรือน โดยเริ่มสารวจตั้งแต่ 8 กุมภาพันธ์ – 13 มีนาคม 2559 โดยมีกลุ่มตัวอย่างประชาชนทั่วไปในพื้นที่ดังกล่าว 1,559 ราย ในจำนวนนี้เป็นเพศหญิงร้อยละ 55 เพศชายร้อยละ 45 และเป็นมุสลิมร้อยละ 76.2 และชาวพุทธ 23.4

 

(1) สื่อมวลชน สมาชิกองค์กรประชาสังคม นักวิชาการ และเจ้าหน้าที่รัฐรับฟังผลการสารวจความคิดเห็นประชาชนต่อกระบวนการสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้ (Peace Survey)

(1) สื่อมวลชน สมาชิกองค์กรประชาสังคม นักวิชาการ และเจ้าหน้าที่รัฐรับฟังผลการสารวจความคิดเห็นประชาชนต่อกระบวนการสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้ (Peace Survey)

(1) สื่อมวลชน สมาชิกองค์กรประชาสังคม นักวิชาการ และเจ้าหน้าที่รัฐรับฟังผลการสารวจความคิดเห็นประชาชนต่อกระบวนการสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้ (Peace Survey)

 

ผศ.ดร.ศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี ผู้อำนวยการสถานวิจัยความขัดแย้งและความหลากหลายทางวัฒนธรรมภาคใต้ (CSCD) เปิดเผยว่า ผู้ตอบแบบสอบถามที่เป็นประชาชนทั่วไป ส่วนใหญ่สนับสนุนการใช้การพูดคุย/เจรจาเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ในพื้นที่ถึงร้อยละ 56.4 และระบุว่าไม่สนับสนุนเพียงร้อยละ 4 เมื่อถามถึงความเชื่อมั่นต่อกระบวนการพูดคุยที่ดำเนินการอยู่ขณะนี้ว่าจะแก้ปัญหาได้สาเร็จหรือไม่ ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ระบุว่ารู้สึกเฉยๆ มากที่สุด คือ ร้อยละ 33 ในขณะที่ตอบว่าไม่มีความเชื่อมั่นร้อยละ 23.1 และมีความเชื่อมั่นร้อยละ 20.6 ส่วนภาพรวมของความพึงพอใจกับความก้าวหน้าของกระบวนการพูดคุย พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่รู้สึกเฉยๆ กับความก้าวหน้า ร้อยละ 39.8 พอใจร้อยละ 22.2 และไม่พอใจ ร้อยละ 12.2 อย่างไรก็ดี ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เห็นว่า กระบวนการพูดคุยมีผลทำให้บรรยากาศและสภาพแวดล้อมในชีวิตมีความเป็นอยู่ดีขึ้นถึงร้อยละ 46.6


นอกจากนี้ ผลการสำรวจยังพบว่าประชาชนมีข้อกังวลต่อกระบวนการพูดคุยสันติภาพ/สันติสุข ที่กำลังดำเนินอยู่ในประเด็น 5 อันดับแรก คือ 1.กระบวนการพูดคุยไม่สามารถหยุดความรุนแรงได้จริง ร้อยละ 61.8, 2.ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ทำตามที่ตกลงกัน ร้อยละ 60.9, 3.สถานการณ์รุนแรงขึ้นกว่าเดิม ร้อยละ 58.6, 4.ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่รับฟังความต้องการของอีกฝ่ายอย่างจริงจัง ร้อยละ 54.8 และ 5.ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ให้เกียรติกัน ร้อยละ 53.8 แต่ถึงจะมีข้อกังวลข้างต้น น่าสนใจว่ามีผู้ตอบแบบสอบถามถึงร้อยละ 51 ที่มีความหวังว่าในอีก 5 ปีข้างหน้ากระบวนการพูดคุยที่ต่อเนื่องจะทาให้เกิดข้อตกลงสันติภาพในที่สุด


สำหรับข้อเสนอที่ต้องการให้รัฐบาลและขบวนการต่อสู้ฯได้พูดคุยกันในขณะนี้ มีผู้เลือกตอบในเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจและการยกระดับชีวิตความเป็นอยู่จำนวนมากที่สุดเป็นลำดับแรก ตามมาด้วยการแก้ไขปัญหายาเสพติด และการพัฒนาการศึกษาตามลำดับ

ในขณะที่ประเด็นเร่งด่วนที่ทุกฝ่ายต้องดำเนินการเพื่อให้เกิดผลในทางบวกต่อการแก้ปัญหา ได้แก่ 1. การแก้ไขปัญหายาเสพติด ร้อยละ 77.9, 2.การสร้างพื้นที่ปลอดภัยในชุมชนร้อยละ 74, 3.การปรับปรุงการบังคับใช้กฎหมาย กระบวนการยุติธรรม และการเยียวยาให้มีความเป็นธรรม ร้อยละ 62.2,  4.การหลีกเลี่ยงการก่อเหตุความรุนแรงกับเป้าหมายอ่อน ร้อยละ 59.1, 5.ตั้งคณะกรรมการซึ่งประกอบด้วยบุคคลหลายฝ่ายในการตรวจสอบข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ความรุนแรง ร้อยละ 57.9

ส่วนข้อเสนอที่เกี่ยวข้องกับการบริหารปกครองนั้น การสำรวจพบว่าผู้ตอบแบบสอบถามประชาชนส่วนใหญ่ถึงร้อยละ 61.7 เห็นว่าหากต้องการจะแก้ไขปัญหาและสร้างสันติภาพ/สันติสุขที่ยั่งยืนนั้น        จำเป็นต้องพูดถึงรูปแบบการปกครองที่เหมาะสมกับพื้นที่ โดยส่วนใหญ่อยากเห็นรูปแบบที่มีการกระจายอำนาจ ด้วยโครงสร้างการปกครองที่มีลักษณะเฉพาะของพื้นที่นี้ภายใต้กฎหมายของประเทศไทย ร้อยละ 26.5 รองลงมาคือรูปแบบที่มีการกระจายอำนาจมากขึ้น ด้วยโครงสร้างการปกครองที่เหมือนกับส่วนอื่นๆของประเทศ ร้อยละ 22.2 ส่วนรูปแบบที่ผู้ตอบแบบสอบถามไม่อยากได้ คือ รูปแบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบันโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ร้อยละ 25.1 และรูปแบบที่เป็นอิสระจากประเทศไทย ร้อยละ 22.9

 

(2) สื่อมวลชน สมาชิกองค์กรประชาสังคม นักวิชาการ และเจ้าหน้าที่รัฐรับฟังผลการสารวจความคิดเห็นประชาชนต่อกระบวนการสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้ (Peace Survey)

(2) สื่อมวลชน สมาชิกองค์กรประชาสังคม นักวิชาการ และเจ้าหน้าที่รัฐรับฟังผลการสารวจความคิดเห็นประชาชนต่อกระบวนการสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้ (Peace Survey)

(2) สื่อมวลชน สมาชิกองค์กรประชาสังคม นักวิชาการ และเจ้าหน้าที่รัฐรับฟังผลการสารวจความคิดเห็นประชาชนต่อกระบวนการสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้ (Peace Survey)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง