วันนี้ (18 พ.ค.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงาน กสทช.จัดสถานที่บริเวณชั้น 1 หอประชุม เพื่อเตรียมรับรองขั้นตอน ตรวจเอกสาร สำหรับบริษัทที่สนใจเข้าร่วมประมูล 4 จี รอบใหม่ คลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิร์ตซ ซึ่งจะเคาะราคาประมูลในวันที่ 27 พฤษภาคม
สำหรับการประมูลที่จะมีขึ้น กสทช.กำหนดราคาตั้งต้นไว้ที่ 7 หมื่น 5,654 ล้านบาท ดังนั้น บริษัทที่มายื่นเอกสารวันนี้ จะต้องนำหนังสือค้ำประกันจากสถาบันการเงิน พร้อมหลักทรัพย์ค้ำประกันมาให้กสทช.ด้วย จำนวน 3,783 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 5 ของราคาตั้งต้นการประมูล รวมค่าคำขอเข้าร่วมประมูลอีก 5 แสนบาท
การประมูลรอบใหม่สืบเนื่องจาก บริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ 1 ใน 2 บริษัท ที่ชนะการประมูล คลื่น 900 เมกะเฮิร์ตซ เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้วแต่ทิ้งใบอนุญาต โดยอ้างว่าทำเอกสารค้ำประกันไม่ทันกับระยะเวลาชำระค่าประมูล จึงเหลือผู้ชนะในคลื่น 900 เมกะเฮร์ซนี้ บริษัทเดียว คือ ทรูมูฟเอช ยูนิเวอร์แซล
คลื่นความถี่ที่โดนบริษัทแจสฯ ทิ้งไป ทำให้ต้องจัดประมูลใหม่ ภายใต้การอนุมัติของ หัวหน้า คสช. โดยอาศัยอำนาจตาม มาตรา 44 การประมูลรอบใหม่นี้ "บริษัท ดีแทค" เป็นรายแรก ที่ออกตัวชัดเจนตั้งแต่เดือนเมษายนว่าจะไม่ร่วมประมูลรอบใหม่ เพราะราคาตั้งต้นที่ กสทช. กำหนดไว้ 75,654 ล้านบาทสูงเกินไป ซึ่งราคานี้ กสทช.ให้เหตุผลว่าเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อรายได้แผ่นดิน เพราะเป็นราคาที่ บริษัทแจสฯ ชนะประมูล
ด้านบริษัท ทรู คอร์เปเรชั่น ตัดสินใจถอนตัวไม่ร่วมประมูลเป็นรายที่ 2 แม้ว่าก่อนหน้านั้น บริษัท ทรู ได้ขอรับเอกสารการประมูลกับ กสทช.เพื่อนำไปศึกษา แต่เหตุผลไม่ร่วมประมูลที่แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อคืนนี้ เป็นเพราะบริษัทมีคลื่นความถี่ครบถ้วนและเพียงพอแล้ว ที่จะให้บริการครอบคลุมทั้งสัญญาณ 2 จี ,3 จี และ 4 จี
ดังนั้น บริษัท เอไอเอส จึงเป็นรายเดียวในเวลานี้ที่จะชนะ โดยไม่ต้องเคาะราคาแข่งกับบริษัทอื่น หากวันนี้ เอไอเอส ตัดสินใจ ยื่นเอกสารเพื่อแสดงตัวขอเข้าร่วมประมูลกับทาง กสทช. อย่างไรก็ตาม หากกระบวนการไม่มีปัญหา กสทช.จะสามารถประกาศรับรองรายชื่อผู้ชนะประมูลได้ใน 1-2 วัน และคาดว่าผู้ชนะประมูลจะเร่งนำเงินค่าประมูลมาชำระก่อนครบกำหนด 90 วัน เพื่อเร่งเปิดให้บริการ