วันนี้ (6 ก.ค. 2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ประกอบการรีสอร์ทบนภูทับเบิก อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ เตรียมยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อศูนย์ดำรงค์ธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาทางออกร่วมกับผู้ประกอบการและชาวบ้านโดยเร็วที่สุด
หลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ยึดที่ดิน ส.ป.ก.ที่ผู้ประกอบการและชาวบ้านครอบครองโดยมิชอบ เพื่อจัดสรรให้กับเกษตรกรตามนโยบายจัดที่ดินทำกินลดความเหลื่อมล้ำของรัฐบาล เนื่องจากคำสั่งดังกล่าวสร้างความเสียหายให้กับผู้ประกอบการสีสอร์ท ทั้งคนไทยและชาวไทยภูเขาประมาณ 100 คน ที่ประกอบอาชีพบริการนักท่องเที่ยว โดยคำสั่งรื้อถอนครั้งนี้ยังระบุไม่ให้ผู้ประกอบการฟ้องศาลปกครองเพื่อยับยั้งการรื้อถอน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า อาคารห้องพักประมาณ 1,000 หลัง จะถูกรื้อถอนออกทั้งหมด โดยพื้นที่สิ่งปลูกสร้างเป้าหมายที่เจ้าหน้าที่นำโดยผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์จะเข้ารื้อถอน คือ หมู่ที่ 14 บ้านทับเบิก หมู่ที่ 16 บ้านทับเบิกใหม่ หมู่ที่ 17 บ้านนาสะอุ้ง ต.วังบาล และหมู่ที่ 8 บ้านน้ำเพียงดิน ต.บ้านเนิน อ.หล่มเก่า
นายบุญลาภ สุดใส ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก กล่าวว่า คำสั่งให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทั้ง 46 แปลง ที่คดีสิ้นสุดแล้ว จะส่งถึงผู้ประกอบการภายในวันศุกร์นี้ (8 ก.ค.) เบื้องต้นมีระยะเวลาให้ผู้ประกอบการและร้านค้าต่างๆ รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกภายใน 30 วันนับตั้งแต่วันที่มีประกาศ
ด้านที่ปรึกษาคณะทำงานสมัชชาการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.เพชรบูรณ์ กล่าวว่า เห็นด้วยกับการใช้มาตรา 44 เข้าแก้ปัญหาบุกรุกภูทับเบิก แต่ไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการรื้อถอนทั้งหมด และยังเสนอให้ภาครัฐเปิดโอกาสให้ภาคประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา