วันนี้ (8 ส.ค.2559) นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. เปิดเผยว่าวันพรุ่งนี้ เวลา 14.00น. ได้เชิญตัวแทนบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น ในฐานะเป็นตัวแทนที่เจรจาโดยตรงได้กับบริษัทญี่ปุ่นที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์โปเกม่อน หารือเพื่อขอความร่วมมือให้กำหนดพื้นที่ที่เหมาะสมหรือโซนนิ่งในการจับตัวการ์ตูนโปเกม่อนในประเทศไทย โดยจะให้บริษัททรูฯ ไปพูดคุยกับบริษัทญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เพื่อให้เข้าใจ โดยพื้นที่ที่จะขอห้ามให้โปเกม่อนปรากฏตัว เช่น พื้นที่ที่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลหรือรบกวนบุคคลอื่น เช่น โรงพยาบาล เขตพระราชวัง พื้นที่มีมีป้ายระบุว่าเป็นเขตหวงห้ามหรือพื้นที่เกี่ยวกับความมั่นคง
"นอกจากนี้จะขอแจ้งเตือนประชาชนและผู้ปกครองว่าให้ระวังและควบคุมค่าใช้จ่ายในการใช้งานอินเทอร์เน็ตให้เกิดความเหมาะสม เนื่องจากเท่าที่ กสทช.พบข้อมูลคือการซื้อไอเทมหรือการซื้อสินค้าเพิ่มในเกมมีราคาประมาณ 2,000-3,000 บาท ซึ่งเรื่องนี้ผู้ปกครองอาจไม่รู้ว่าจะเกิดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้บานปลายตามมาได้ และจะมีปัญหากับบริษัทค่ายมือถือในการจ่ายค่าอินเทอร์เน็ต และค่าไอเทมต่างๆ เหล่านี้ กสทช.เอง ก็ไม่อยากให้เกิดปัญหาการร้องเรียนตามมา" นายฐากร กล่าว
สำหรับการกำหนดสถานที่หรือโซนนิ่งนั้น จะให้บริษัทไปดูแลอีกทีว่าจะกำหนดอย่างไรบ้าง และยืนยันว่า กสทช. ไม่คิดจะควบคุมหรือปิดกั้น แต่บางพื้นที่ต้องขอความร่วมมือจริงๆ สำหรับประเทศญี่ปุ่นที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ เขาปล่อยประชาชนเล่นบนฟุตบาธได้ เพราะสภาพฟุตบาธเขากว้างขวางเดินสบาย แต่ประเทศไทยฟุตบาธ ไม่ได้เหมาะสมแบบญี่ปุ่นและบางพื้นที่เป็นอัตรายสำหรับผู้เล่นเองจริงๆ
นายฐากร ระบุว่าเมื่อช่วงเช้าวันนี้ ได้พูดคุยกับนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ซึ่ง รมว.ไอซีที ก็มีความเป็นห่วงต่อประเด็นค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นกับผู้ใช้งาน ทั้งนี้ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่สำนักงาน กสทช. ยังรายงานให้เลขาธิการ กสทช. ทราบว่าปริมาณการใช้งานอินเทอร์เน็ตในช่วงสองวันนี้ที่เริ่มมีเกมโปเกม่อนเข้าสู่เมืองไทย พบการใช้งานอินเทอร์เน็ตเพิ่มสูงมากขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานคร แต่ขณะนี้ กำลังให้เจ้าหน้าที่สรุปภาพรวมการใช้งานอินเทอร์เน็ตอีกครั้งเพื่อความชัดเจน