วันนี้ (10 ส.ค.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 31 "ริโอเกมส์ 2016" จากนครริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล มวยสากลสมัครเล่น รอบ 2 รุ่นไลท์เวท 60 กิโลกรัม อำนาจ รื่นเริง พบ โซฟาเน่ อุมิฮา นักมวยฝรั่งเศส ยกแรก อำนาจ เป็นรองรูปร่างดึงออกหมัดสวยได้หลายหมัด จบยกนี้คะแนนนำอยู่ ช่วงกลางยก 2 อำนาจ ตั้งการ์ดบล็อค แต่มาพลาดโดนหมัดของ โซฟาเน่ เข้าที่ปลายคาง ถูกนับไป 2 ครั้ง ยกสุดท้าย อำนาจ พยายามชกประคองตัว แต่ถูกหมัดรัวเข้าที่ใบหน้าและลำตัวจนกรรมการนับครั้งที่ 3 และยุติการชก ส่งผลให้ อำนาจ แพ้ ทีเคโอ ตกรอบเป็นคนแรกของกำปั้นไทย
หลังการชกอำนาจยอมรับว่าตัดสินใจผิดพลาดที่ไปเปลี่ยนเกมส์มาบล็อคหมัด ทำให้ไม่สามารถต้านพลังหมัดคู่ชกได้ โดยทีมนักชกไทยขณะนี้เหลือลุ้นในโอลิมปิกเกมส์ 4 คน ช่วงค่ำวันนี้เป็นคิวของ ฉัตร์ชัย บุตรดี รุ่น 56 กิโลกรัม จะขึ้นชกรอบแรกพบมวยจากสหราชอาณาจักร
ส่วนการแข่งขันยกน้ำหนักหญิง รุ่น 63 กิโลกรัม ศิริภุช กุลน้อย ที่ขยับจากรุ่น 58 กิโลกรัมจากเมื่อ 4 ปีก่อน ยกท่าสแนช ผ่านในครั้งที่ 2 ทำน้ำหนักไว้ที่ 108 กิโลกรัม แต่ในการยกท่าคลีน แอนด์ เจิร์ก ศิริภุช ยก 132 กิโล ไม่ผ่านทั้ง 3 ครั้ง ทำให้หมดลุ้นเหรียญไปโดยปริยาย
ขณะที่ เติ้ง เหว่ย นักกีฬาจากจีน ยกท่า สแนช ได้ 115 กิโลกรัม ท่า คลีน แอนด์ เจิร์ก ทำได้ 147 กิโล น้ำหนักรวม 262 กิโล ทำลายสถิติโลกในท่าคลีน แอนด์ เจิร์ก ที่ตัวเองเคยทำไว้ในการแข่งขันชิงแชม์โลก เมื่อปี 2015 และทำลายสถิตโลกน้ำหนักรวม คว้าเหรียญทองไปแบบไร้คู่แข่ง
สำหรับยกน้ำหนักชาย รุ่น 69 กิโลกรัม ไตรรัตน์ บุญสุข เจ้าของ 2 เหรียญทองแดงซีเกมส์ที่เมียนมาที่ลงทำการแข่งขันในคลาสบี ซึ่งเป็นการแข่งขันเพื่อเก็บสถิติ ไม่มีผลต่อเหรียญรางวัล โดยยกท่าสแนช ได้น้ำหนัก 137 กิโล ส่วน คลีน แอนด์เจิร์ก ยกได้ 179 กิโล ทำน้ำหนักรวมไว้ที่ 316 กิโล จบอันดับ 4 ของคลาสบี
ด้านการแข่งขันเรือพาย รอบคัดเลือกของการจัดอันดับ ในประเภทเรือกรรเชียง 1 คน ชายพายคู่ จารุวัฒน์ แสนสุข เข้าเส้นชัยเป็นคนแรก ผ่านเข้ารอบสุดท้ายของการจัดอันดับในกลุ่มอี ส่วนพุทธรักษา นีกรี ในประเภท 1 คน หญิง พายคู่ ที่ลงแข่งรอบคัดเลือกของการจัดอันดับเช่นกัน แม้จะเข้าเส้นชัยเป็นคนที่ 3 แต่ได้สิทธิ์เข้าแข่งรอบสุดท้ายของการจัดอันดับในกลุ่มอี ด้วยเช่นกัน โดยรอบชิงของกลุ่มอี ผู้ชนะจะได้อันดับที่ 24 ของการแข่งขัน ซึ่งจะลงแข่งวันที่ 12 สิงหาคมนี้
การแข่งขันยิงปืนสั้นมาตรฐานสตรี ไทยมีนักกีฬาลงแข่งขัน 2 คน ได้แก่ ธันยพร พฤกษากร และพิมพ์อร คล้ายสุบรรณ ผลปรากฏว่า ธันย่า ที่เข้ารอบไฟนั่ลโอลิมปิกเกมส์ถึง 2 ครั้ง ไม่ว่าจะเป็นที่ปักกิ่ง และลอนดอน ทำไป 568 คะแนน เป็นอันดับ 32 ส่วนพิมพ์อร คล้ายสุบรรณ ทำ 575 คะแนน จบอันดับที่ 23
หลังการแข่งขัน ธันยพร ให้สัมภาษณ์ว่า สาเหตุหลักที่ทำให้ยิงผิดฟอร์ม เนื่องจากไม่มีผู้ฝึกสอนเดินทางมาด้วย ต้องใช้โค้ชของปืนยาว มาให้คำปรึกษา ซึ่งส่วนมากช่วยได้แค่เรื่องของจิตวิทยาเท่านั้น ไม่ใช่เรื่องเทคนิคการแข่งขัน
ส่วนเป้าหมายต่อไปของ ธันยาพร คือรายการยิงปืนชิงแชมป์กีฬามหาวิทยาลัยโลก ที่ประเทศโปแลนด์ เดือนกันยายน และตั้งเป้าจะกลับไปยิงปืนในโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ญี่ปุ่น ให้ได้ ขณะที่พิมพ์อรจะลงแข่งขันยิงปืนชิงแชมป์กีฬามหาวิทยาลัยโลกที่ประเทศโปแลนด์เช่นกัน