นายฉวี อายุ 57 ปี หายตัวไปพร้อมด้วยรถยนต์กระบะรุ่นวีโก้ ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์เงิน 4 ประตู หมายเลขทะเบียน ถศ 8215 กทม. ตั้งแต่วันที่ 19 ส.ค.2559 โดยทางญาติได้เข้าแจ้งคนหายเมื่อวันที่ 22 ส.ค. และต่อมาวันที่ 23 ส.ค. นายสกล จันทรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ได้มีหนังสือด่วนที่สุดถึงกระทรวงยุติธรรม ตำรวจภูธรจังหวัดพังงาและฝ่ายปกครองเรื่องข้าราชการกระทรวงยุติธรรมหายตัวและขอให้ติดตามตัว
นายฉวีเป็นชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช มาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดพังงา และทุกวันศุกร์จะกลับไปดูแลพี่สาวที่ป่วยอยู่ที่ จ.นครศรีธรรมราช มีภรรยาทำงานที่ศาลรัฐธรรมนูญ ไม่มีลูก เจ้าหน้าที่สำนักงานคุมประพฤติให้ข้อมูลว่า นายฉวีได้ออกจากที่ทำงานในช่วงบ่ายวันศุกร์ที่ 19 ส.ค.และปกติจะกลับมาทำงานเช้าวันจันทร์ แต่ปรากฏว่านายฉวีไม่มาทำงานและโทรศัพท์ไม่สามารถติดต่อได้
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในตัวเมืองนครศรีธรรมราชกว่า 5 จุด พบรถยนต์กระบะโตโยต้าวีโก้ที่นายฉวีเป็นผู้ขับขี่ ขับตามเส้นทางที่มุ่งหน้ากลับบ้านหลังจากพบเพื่อนสนิท
เมื่อวานนี้ (30 ส.ค.2559) นายสกล จันทรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงาลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช เพื่อติดตามคดีการหายตัวไปของนายฉวี และเข้าพบ พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อประสานข้อมูลการสืบสวนในท้องที่ จ.พังงา ที่อาจมีส่วนเกี่ยวพันกับการหายตัวไปของนายฉวี โดยเฉพาะเรื่องที่ดินใน จ.พังงาที่นายฉวีอาจเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง
หลังจากนั้นนายสกลได้เดินทางไปเยี่ยมพี่สาวและน้องสาวของนายฉวีและซักถามข้อมูลเกี่ยวกับการครอบครองที่ดิน ที่มีเนื้อที่รวม 22 ไร่ ซึ่งเป็นชื่อของพี่สาวและน้องสาวนายฉวี ซึ่งแม้จะเป็นที่ดินที่ไม่ได้อยู่ในกรรมสิทธิ์ของนายฉวี แต่พบว่านายฉวีเป็นผู้เข้าไปทำประโยชน์
เจ้าหน้าที่ระบุว่าการสืบสวนมีความคืบหน้าในการสืบสวนไปมาก มีประเด็นการสืบสวน 5 ประเด็นที่ไม่สามารถตัดประเด็นใดออกได้ โดยเฉพาะประเด็นความขัดแย้งส่วนตัว ชู้สาว และปัญหาที่ดิน