วันนี้ (1 ก.ย.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทีมแพทย์และพยาบาลโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ สาธิตการปั๊มหัวใจเพื่อยืนยันว่าการช่วยเหลือนายธวัชชัย อนุกูล ผู้ต้องหาคดีทุจริตที่ดิน จ.ภูเก็ต ในคืนวันเกิดเหตุเป็นไปตามขั้นตอนและไม่ได้ส่งผลให้ตับแตก หรือเลือดออกในช่องท้อง เนื่องจากอยู่คนละตำแหน่งกับหัวใจ หรือหากปั๊มหัวใจผิดตำแหน่งทำให้ซี่โครงหักตรงช่วงบนเท่านั้น ส่วนกรณีตับแตกนั้น ไม่ได้ส่งผลให้เสียชีวิตทันที แต่จะมีอาการปวดท้องอยู่เป็นสัปดาห์
พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ กล่าวว่า การรับแจ้งให้ช่วยผู้ป่วยไม่ได้มีการแจ้งว่าถูกรัดที่คอ แต่แจ้งว่ามีคนเป็นลมหมดสติเท่านั้น ซึ่งการช่วยเหลือมีความแตกต่างกัน
ทั้งนี้ ข้อชี้แจงของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กับโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ยังมีข้อขัดแย้งอยู่ โดยดีเอสไอระบุว่า สอบปากคำในช่วงเย็นจากนั้นส่งผู้ต้องหาเข้าห้องควบคุมตัว แต่เจ้าหน้าที่มาพบ นายธวัชชัยหมดสติ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อนำส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ขณะที่โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ยืนยันว่า การรับแจ้งว่ามีคนเป็นลมหมดสติ เวลา 01.15 น. เมื่อทีมแพทย์มาถึงจึงเข้าช่วยเหลือผู้ป่วยในภาวะวิกฤตและปฐมพยาบาลเพื่อให้ฟื้นคืนชีพตามหลัก เมื่อถึงห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลได้ใช้คลื่นไฟฟ้ากระตุ้นหัวใจของผู้ป่วยที่หยุดเต้นหลายครั้ง แต่กระตุ้นให้หัวใจกลับฟื้นคืนได้ชั่วคราว อาการไม่ได้ฟื้นกลับคืนสภาพที่พ้นภาวะวิกฤต จนกระทั่งเวลา 02.40 น. ย้ายผู้ป่วยไปหน่วยอภิบาลผู้วิกฤต แต่อาการวิกฤตต่อเนื่องต้องทำการช่วยฟื้นคืนชีพหลายครั้ง จนเสียชีวิตเวลา 04.45 น.
ขณะที่ พล.ต.ต.นพ.พรชัย สุธีรคุณ ผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานเนื้อเยื่อและดีเอ็นเอในซอกเล็บและเลือดไว้ คาดว่าจะใช้เวลาในห้องปฏิบัติการประมาณ 1 เดือน หากญาติติดใจสามารถนำศพไปให้หน่วยงานอื่นชันสูตรซ้ำได้ โดยขณะนี้ญาติของนายธวัชชัย เลื่อนการฌาปนกิจไปโดยไม่มีกำหนด พร้อมเตรียมเรียกร้องขอความเป็นธรรม