องค์กรกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล หรือ WWF ประเทศไทย เผยแพร่จดหมายเปิดผนึกผ่านทางเว็บไซต์ขอให้ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พิจารณาถึงผลกระทบจากการสร้างเขื่อนแม่วงก์ โดยขอให้รัฐบาลเลือกการจัดการน้ำที่เหมาะสม เช่น การทำแก้มลิงหรือแบบฝายพวง เพื่อรักษาผืนป่าแม่วงก์ไว้
พร้อมระบุว่า ป่าแม่วงก์มีความสำคัญต่อระบบนิเวศในผืนป่าตะวันตก หล่อเลี้ยงลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนบนและลุ่มน้ำแม่กลอง รวมถึงเป็นแหล่งป่าสักธรรมชาติที่เหลืออยู่เพียง 1 ใน 2 ของผืนป่าในประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นที่อยู่อาศัยของพืชพันธุ์และสัตว์ป่า โดยเฉพาะเสือโคร่ง ที่เป็นตัวชี้วัดความสมบูรณ์ของระบบนิเวศ และจากนโนยบายของรัฐบาลในการทวงคืนผืนป่า WWF ประเทศไทย จึงขอให้ยุติการใช้มาตรา 44 ในการอนุมัติสร้างเขื่อนแม่วงก์
เช่นเดียวกับเครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำภาคเหนือ (คปน.) และเครือข่ายองค์กรภาคีรวม 133 องค์กร ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ยุติการใช้มาตรา 44 ผลักดันสร้างเขื่อนแม่วงก์ โดยทางเครือข่ายจะรวบรวมรายชื่อเพื่อทำหนังสือส่งให้ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรงเกษตรและสหกรณ์ พิจารณาในวันที่ 12 ก.ย.2559
อีกด้านหนึ่ง พล.อ.ฉัตรชัย ยืนยันว่ายังไม่มีแผนสร้างเขื่อนแม่วงก์ ซึ่งกระแสข่าวที่เกิดขึ้นเป็นเพียงการตีความของสื่อมวลชนเท่านั้น และมองว่าเป็นเรื่องปกติที่นายศศิน เฉลิมลาภ เลขาธิการมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ที่ออกมาระบุว่าพร้อมจะคุยถึงสาเหตุที่คัดค้านเพราะนายศศินคัดค้านเรื่องนี้มาโดยตลอด