เจ้าหน้าที่ด่านชายแดนถาวรช่องเม็ก อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี ใช้เครื่องเอกซเรย์แสกนสินค้าภายในรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ที่เข้ามายังประเทศไทยทุกคัน ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการป้องกันลักลอบนำเข้าสินค้าหนีภาษี และสำแดงสินค้าเป็นเท็จ เพื่อยืนยันภาพเอกซเรย์ประเภทสินค้าที่นำเข้าจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน และเมื่อมาถึงฝั่งประเทศไทยก็ยังเป็นสินค้าชนิดเดียวกัน
พิธีการศุลกากรที่เข้มงวดทั้งเรื่องระเบียบเอกสารและการตรวจสอบด้วยเทคโนโลยีทำให้ตัวแทนผู้นำเข้า-ส่งออก หรือชิปปิ้ง เชื่อว่าการพบไม้พะยูงซุกซ่อนในตู้คอนเทนเนอร์ 20 ตู้เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ภายในท่าเรือแหลมฉบังไม่ได้ผิดพลาดในขั้นตอนพิธีการศุลกากร แต่มีช่องว่างระยะเวลาเดินทาง 3 วันของตู้คอนเทนเนอร์ถึงปลายทาง รวมจุดพักรถตามเส้นทางอีกกว่า 10 แห่ง ซึ่งนี่อาจเป็นช่องว่างให้ขบวนการค้าไม้พะยูงข้ามชาตินำไม้พะยูงมาสวมเป็นสินค้าที่ได้รับอนุญาตให้ส่งออกตามกฏหมาย
ไทยพีบีเอสตรวจสอบเส้นทางสาย 24 เดชอุดม-โชคชัย ซึ่งวิ่งผ่าน จ.อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ เนื่องจากฝ่ายความมั่งคงระบุว่า มีคลังไม้ขนาดใหญ่รอนำไม้พะยูงมาสวมเป็นสินค้าที่ได้รับอนุญาตให้ส่งออก แต่ปัจจุบันขบวนการนี้ได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไม่นำไม้มารวมในจุดเดียวกัน แต่เป็นการทยอยจอดรับตามจุดนัดหมายทำให้ยากแก่การตรวจสอบ ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่ยืนยันถึงการมีอยู่จริงของกลุ่มขบวนการนี้
สินค้านำเข้าด่านศุลกากรช่องเม็กในรอบ 6 เดือนส่วนใหญ่เป็นสินค้าการเกษตร ทั้งกะหล่ำปลี กล้วยดิบ ถั่วลิสงทั้งเปลือก สินค้าพลังงานไฟฟ้า และเมล็ดกาแฟดิบ หรือกาแฟคั่ว แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าในรอบ 4 เดือนที่ผ่านมาศุลกากรจากประเทศลาวไม่อนุญาตให้ส่งออกไม้ทุกชนิด และตรวจสอบสต็อกไม้ที่มีทั้งหมดในประเทศ ซึ่งหัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน เชื่อว่า เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ขบวนการค้าไม้พะยูงข้ามชาติไม่ส่งออกไม้ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน แต่เปลี่ยนวิธีการสวมเป็นสินค้าถูกกฎหมาย