"เศรษฐกิจพอเพียง" เป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช มีพระราชดำรัส ชี้แนะแนวทางการดำเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทยถึงแนวการดำรงอยู่และปฏิบัติตนในทุกระดับ ไปจนถึงการพัฒนาและบริหารประเทศให้ดำเนินไปในทางสายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อให้ก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวัฒน์ เป็นการมองโลกเชิงระบบที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดยความพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล ซึ่งจะเป็นภูมิคุ้มกันที่ดี
การยึดหลักทางสายกลางท่ามกลางมรสุมเศรษฐกิจ คือ รู้จักพอประมาณ พออยู่ พอกิน พอใช้ ประหยัด และไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น
สุทธาภา อมรวิวัฒน์ รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุดศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ ระบุว่า ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมีความสำคัญต่อทุกหน่วยธุรกิจในสังคมไทยและหากทุกคนนำหลักการนี้ไปใช้ จะทำให้ภาพใหญ่ของเศรษฐกิจไม่ตกอยู่ในความเสี่ยง
ขณะที่นางวรวรรณ ธาราภูมิ นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม กล่าวว่า ทุกภาคส่วนสามารถนำหลักการไปประยุกต์ใช้ รวมทั้งในวงการตลาดทุนที่คนส่วนใหญ่เข้ามาลงทุนในตลาดเพื่อหวังกำไร เมื่อนำหลักการประมาณตนมาใช้ก็จะไม่ประสบปัญหา แม้ตลาดจะผันผวนแค่ไหนก็ตาม
จากสถิติการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ย้อนหลัง 1 เดือน พบว่าดัชนีมีการปรับขึ้นและลง ในระหว่างทางอาจมีนักลงทุนบางส่วนที่เสียประโยชน์ แต่มีนักลงทุนบางส่วนที่ได้ประโยชน์ หากการลงทุนทำด้วยความรอบคอบ รู้จักพอประมาณ ลงทุนด้วยเหตุด้วยผล จะเป็นภูมิคุ้มกันที่ดีให้กับนักลงทุนทุกคน