นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล ผู้อำนวยการกองต่างประเทศ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กล่าวว่า การให้ความช่วยเหลือคนไทยเหยื่อการค้ามนุษย์ในประเทศมาเลเซีย 21 คน ซึ่งถูกควบคุมตัวในบ้านพักฉุกเฉินสตรีในเขต Kempas เมืองยะโฮร์บารู ประเทศมาเลเซีย ในข้อหาคดีการค้ามนุษย์
หลังจากทางการมาเลเซียจับกุมนายอับดุลนาเซ วาเด็ง เจ้าของร้านอาหารต้มยำ อานีซะ ในรัฐยะโฮร์บารู และนายอับดุลเลาะ ลูกเขย สามีนางรอฮานี วาเด็ง หลังจากได้รับแจ้งมาว่าคนไทยทั้ง 21 คนและนายหน้าอีก 2 คนถูกควบคุมตัวในคดีการค้ามนุษย์
ส่วนคนไทย 21 คน ทางการควบคุมตัวเพื่อกันเป็นพยานในคดี ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย.2559 ล่าสุดเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศมาเซีย เดินทางไปเยี่ยมคนไทยที่ถูกควบคุมตัวเพื่อทำความเข้าใจในการให้ความช่วยเหลือตามกฎหมายของประเทศมาเลเซีย โดยให้ทางสถานทูตไทยประจำมาเลเซีย เป็นผู้ประสานงานและติดตามการดูแลอย่างใกล้ชิดตามกรอบของกฎหมายมาเลเซีย เบื้องต้น ได้ให้ญาติที่ประสงค์จะเดินทางมาเยี่ยมให้จัดเตรียมหนังสือเดินทางให้พร้อมเเละอนุญาตให้ญาติเดินทางมาได้ครอบครัวละไม่เกิน 2 คน
ผู้อำนวยการกองต่างประเทศ ศอ.บต.กล่าวอีกว่า การเข้าไปทำงานในประเทศมาเลเซีย ถึงแม้มาเลเซียมีอัตลักษณ์ วัฒนธรรมและวิถีชีวิตที่คล้ายคลึงกันกับประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่หากประชาชนเข้ามาทำงานโดยไม่ศึกษาข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและไม่ดำเนินการขอใบอนุญาตทำงาน (Work permit) ให้ถูกต้องตามระเบียบกฎหมายของประเทศมาเลเซีย อาจถูกจับกุมดำเนินคดีและเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์ได้
ดังนั้นจึงขอให้ผู้ที่ต้องการเดินทางหรือญาติพี่น้องของผู้ที่ถูกชักชวนไปประกอบอาชีพในประเทศมาเลเซีย ต้องพึ่งระวังในเรื่องนี้ให้มาก เพื่อป้องกันการได้รับความเดือดร้อนจากการถูกดำเนินคดีในประเทศมาเลเซีย