ความคืบหน้ากรณีมีข่าวว่าเรือขนส่งสินค้าในท่าเรือแหลมฉบัง ชนวาฬบรูด้าตาย ซึ่งนักวิชาการด้านทรัพยากรทางทะเล ได้เรียกร้องให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เร่งหาเรือและหาสาเหตุการตายของวาฬบรูด้าในทะเลอ่าวไทย
วันนี้( 24 พ.ย.2559) น.ส.สุทธิลักษณ์ ระวิวรรณ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง หรือ ทช. บอกว่า เนื่องจากวาฬบรูด้า เป็นสัตว์สงวนตัวที่ 16 ที่ได้รับการคุ้มครองภายใต้กฎหมายสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าพ.ศ.2535 แล้ว การที่ใครทำให้วาฬบรูด้าตาย ซึ่งแม้จะยังไม่ชัดเจนว่า เกิดจากเรือขนส่งสินค้าในท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ลำใดลำหนึ่งชนวาฬจนตายหรือไม่
ขณะนี้ ทาง ทช.จะประสานขอความร่วมมือกับท่าเรือแหลมฉบัง และคนที่พบหรือมีหลักฐานพยานเชิงประจักษ์ ให้ความร่วมมือกับทช.ในการสืบหาข้อเท็จจริง ทั้งนี้ยืนยันว่าโดยตามหลักการจะต้องมีการสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างแน่นอน
ด้าน นายธเนศ มั่นน้อย ผู้อำนวยการศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลที่ 2 ชลบุรี กล่าวว่า จากการผ่าพิสูจน์ซาก พบว่าเป็นวาฬบรูด้า ตัวเมีย ความยาวราว 12 เมตร น้ำหนัก 18 ตันตายมาแล้ว 1สัปดาห์ และสภาพวาฬมีความสมบูรณ์มาก พบรอยแดงที่ด้านซ้ายลำตัว มีเลือดคั่ง ผลการชันสูตร
โดยเฉพาะการหาร่องรอยจากซี่โครงว่าหักหรือไม่ พบว่ามีซี่โครงหัก และบริเวณครีบขวาด้านหลัง อาจจะสันนิษฐานได้มาจากถูกกระแทกหรือชนอย่างแรงหรือไม่ นอกจากนี้ยังพบร่องรอยการกัดของฉลาม ขณะเดียวกันยังได้ประสานกับการท่าเรือขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดย้อนหลังไปจนถึงวันที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เพื่อดูว่ามีเรือที่เข้า-ออก รอบๆพื้นทีแหลมฉบังกี่ลำ และล่าสุดยังได้เตรียมนำหลักฐานเข้าแจ้งความ เพื่อลงบันทึกประวันกับพนักงานสอบสวนต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วาฬบรูด้าที่หากินในอ่าวไทยมีจำนวนประมาณ 50 กว่าตัว และในฝั่งอันดามันอีกราว10 ตัว โดยหลายปีที่ผ่านมา ทช.ได้มีการศึกษาสำรวจประชากรวาฬบรูด้า เพื่อตั้งชื่อตามอัตลักษณ์ของแต่ละตัว รวมทั้งมีการศึกษาพฤติกรรมและวงจรชีวิตด้วย ขณะที่ในรอบปีนี้พบวาฬบรูด้าตายแล้ว 3 ตัวในทะเลอ่าวไทย