ความคืบหน้ากรณีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์ุพืช ร่วมกับฝ่ายความมั่นคง และฝ่ายปกครอง เข้าจัดระเบียบการท่องเที่ยวในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด จ.ระยอง หลังจากมีการระบุว่าบนมีมาเฟียคุมธุรกิจท่องเที่ยว
วันนี้(25 พ.ย.2559) นายทรงธรรม สุขสว่าง ผู้ตรวจราชการกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ออกมาปฎิเสธว่า บนเกาะเสม็ดไม่มีมาเฟีย แต่เป็นการรวมกลุ่มของคนที่ทำงานแต่ละอาชีพ เช่น กลุ่มหมอนวด กลุ่มหาบเร่แผงลอย กลุ่มรถสองแถว กลุ่มเช่ารถมอเตอร์ไซต์ กลุ่มกีฬาทางน้ำ กลุ่มเรือเร็ว สปีดโบ๊ท รวมถึงกลุ่มผู้ประกอบการรีสอร์ท ซึ่งแต่ละกลุ่มก็มีหัวหน้ากลุ่มในการบริหารจัดการ เพื่อไม่ให้จำนวนผู้ประกอบอาชีพเพิ่ม เช่น กลุ่มมอเตอร์ไซต์ หรือ กลุ่มรถสองแถว ก็ต้องจำกัดจำนวนเพื่อไม่ให้ล้นเกาะ เพราะเกาะมีขนาดเท่าเดิม ดังนั้น รถก็ควรเท่าเดิม
นายทรงธรรมบอกว่า ที่ผ่านมากลุ่มธุรกิจบนเกาะเสม็ดที่ร่ำรวยที่สุดคือ ธุรกิจรีสอร์ท ตอนนี้มีรีสอร์ทที่ยังไม่เข้าระบบอีก 2 ราย และมีรีสอร์ทที่อยู่ในระบบ 22 รายที่รุกล้ำพื้นที่จากที่ให้เช่ากับกรมธนารักษ์ เนื่องจากเกาะเสม็ดมีนักท่องเที่ยวสูงถึงปี 600,000 คนต่อปี การเพิ่มจำนวนห้องเพียง 1 ห้องจะสามารถเพิ่มรายได้ให้กับผู้ประกอบการได้เกือบปีละ 1 ล้านบาท ทำให้มีการขยายพื้นที่ทั้งแนวตั้งและแนวนอน โดยเฉพาะแนวนอน ทำให้เกิดการรุกล้ำพื้นที่ ดังนั้น การขอคืนพื้นที่เป็นไปตามนโยบายการขอคืนพื้นที่ทั่วประเทศของทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอยู่แล้ว ไม่ใช่การดำเนินการที่เกาะเสม็ดที่เดียว
นอกจากนี้ ในอนาคตอาจต้องมีการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว โดยใช้ระบบขายตั๋วล่วงหน้า หรือ อี-ทิคเก็ต โดยจ่ายเงินผ่านเคาเตอร์เซอร์วิส เพื่อลดปัญหาการทุจริตและสามารถตรวจสอบได้ง่าย คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 6 เดือนข้างหน้า