หลังจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในวันนี้ (6 ธ.ค.) รัฐมนตรีทั้งสองคนได้เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และต่อมา นายวิษณุได้เปิดเผยว่าทั้ง 2 คนได้ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีแล้ว รวมทั้งลาออกจากการเป็นสมาชิกและที่ปรึกษาคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ด้วย
การลาออกของ พล.อ.ไพบูลย์ และ พล.อ.ดาว์พงษ์ ทำให้เป็นที่ค่อนข้างแน่นอนว่าจะต้องมีการปรับคณะรัฐมนตรี แต่นอกจาก 2 ตำแหน่งที่ว่างลงนี้แล้ว มีการคาดการณ์ว่าอาจจะมีการปรับตำแหน่งอื่นๆ ด้วยอีกอย่างน้อย 2 ตำแหน่ง
ขณะที่ พล.อ.ไพบูลย์ ซึ่งกำลังมีบทบาทสำคัญในการดำเนินคดีกับพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ทั้งคดีฟอกเงินรับของโจร และรุกป่า โดยระบุว่าหลังเขาหมดหน้าที่การเป็นรัฐมนตรีแล้วจึงไม่ขอให้สัมภาษณ์เรื่องคดีต่างๆ ที่อยู่ในความรับผิดชอบอีก แต่ได้มอบหมายงานไว้หมดแล้ว และเชื่อมั่นว่าผู้ที่เข้ามารับตำแหน่งต่อจะทำหน้าที่ได้
"เรื่องคดีไม่พูดแล้ว จบ มันหมดเวลาของผมแล้ว ผมสั่งการไว้เรียบร้อยแล้ว คนที่ยังอยู่ก็ต้องทำงานต่อได้ อย่าไปห่วง ทุกคนมาก็มีวาระทุกคน เวลาอยู่ก็ทำให้มันดี เวลาไปก็ไม่ห่วงอะไร ผมอยู่ทุกตำแหน่ง ผมทำงานเต็มที่ คุณว่าผมทำงานเต็มที่หรือเปล่า แต่ตอนนี้หมดเวลาแล้ว ไม่ต้องพูดเรื่องพวกนี้แล้ว โปรดเกล้าฯ (แต่งตั้งเป็นองคมนตรี) มาแล้วก็จบแล้ว คนที่มาใหม่เขาก็ต้องทำงาน งานพวกนี้ต้องทำแทนกันได้หมด" พล.อ.ไพบูลย์กล่าว พร้อมกับขอบคุณสื่อมวลชนที่ได้ทำงานร่วมกันในช่วงเวลาที่สำคัญในช่วงชีวิตการทำงานของเขาช่วงหนึ่ง
นอกจาก 2 ตำแหน่งนี้แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ เคยเปรยว่า อาจตั้งมีการตั้งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อมาช่วยงาน พล.อ.ฉัตรชัย สาลิกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ตำแหน่งสุดท้ายที่คาดว่าจะมีการปรับ ครม.คือ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่ขณะนี้ พล.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี รักษาการอยู่ ขณะที่ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แม้จะเคยถูกจับตาว่าอาจจะมีการปรับเปลี่ยน แต่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังเชื่อมั่นว่า จะไม่มีการปรับเปลี่ยน