วันนี้ (13 ธ.ค.2559) พล.อ.ประยุทธ์ เปิดเผยถึงผลการประชุม คสช.ว่า เตรียมจะออกคำสั่งหัวหน้า คสช. 3 ฉบับ โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว ประกอบด้วย
-คำสั่งว่าด้วยการไม่ต่อวาระการทำงานให้ 3 หน่วยงาน คือ 1) สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ 2) คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย และ 3) สภาพัฒนาการเมือง
-คำสั่งเพิ่มเติมเกี่ยวกับการยุติการปฏิบัติหน้าที่ของผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.)
โดย คสช.เห็นว่าทั้ง 3 องค์กรนี้ครบวาระไปแล้ว จึงเห็นควรให้บุคลากรไปทำงานยังหน่วยงานตัวเองส่วนหนึ่ง และองค์กรที่ยังขาดคนอยู่ส่วนหนึ่ง
"เมื่อองค์กรเหล่านี้ทำงานครบวาระแล้ว ขณะที่เรายังมีงานอื่นๆ มากมาย คนที่ทำงานใน 3 หน่วยงานนี้ก็จะกลับไปทำงานที่หน่วยงานของตัวเองส่วนหนึ่ง และบางส่วนจะจัดคนไปทำงานที่ยังขาดคนอยู่ ไม่ได้เป็นการยุบ" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
"ส่วนเรื่อง สมศ.ก่อนหน้านี้เคยมีคำสั่งโดยก่อนหน้านี้มีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ จึงเป็นห่วงว่าเจ้าหน้าที่จะไม่มีงานทำ จึงให้เข้าไปช่วยงานที่สำนักนายกรัฐมนตรี ส่วนรักษาการผู้อำนวยการ สมศ.ที่จะครบวาระในเร็วๆ นี้ ก็ได้สั่งการให้มีสู่กระบวนการคัดสรรใหม่"
นอกจากนี้ยังเตรียมออกคำสั่งหัวหน้า คสช.ในเรื่องการดำเนินการแก้ไขปัญหาอันเกี่ยวเนื่องกับผลกระทบจากการประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำ ก่อนที่จะมี พ.ร.บ.เหมืองแร่ฉบับใหม่
นายกรัฐมนตรยืนยันว่าเรื่องสัญญาและข้อตกลงต่างๆ เกี่ยวกับสัมปทานเหมืองแร่จะดำเนินการอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้เกิดการฟ้องร้อง โดยเฉพาะกรณีของ บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด ที่ จ.พิจิตร ยังคงอยู่ในกระบวนการตรวจสอบความชัดเจน ซึ่งรัฐบาลรับทราบข้อเสนอจากกระทรวงอุตสาหกรรม แต่ยังไม่มีมติใดๆทั้งสิ้น โดยย้ำที่จะให้ความเป็นธรรมในการพิจารณาต่ออายุสัปทาน
"เนื่องจากขณะนี้เรากำลังรอ พ.ร.บ.เหมืองแร่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และคาดว่าจะมีผลบังคับใช้เร็วๆ นี้ ซึ่งตามกฎหมายใหม่นี้จะมีคณะกรรมการเหมืองแร่มาพิจารณาความเหมาะสมของการประกอบการเหมืองแร่ โดยเฉพาะเหมืองแร่ของบริษัท อัครา รีซอร์สเซส ที่ผ่านมารัฐบาลยังไม่มีมติใดๆ ทั้งสิ้นเกี่ยวกับการต่ออายุสัมปทาน ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบให้เกิดความชัดเจนเพราะใกล้ถึงกำหนดต้องต่ออายุสัมปทาน ซึ่งแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพราะหากดำเนินการไม่รอบคอบก็อาจมีการฟ้องร้องกันได้" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
สำหรับการปรับครม.นั้น พล.อ.ประยุทธ์ ปฏิเสธที่จะเปิดเผยถึงรายละเอียด โดยระบุเพียงว่าอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาสรรหาตัวบุคคล พร้อมกับย้ำว่าทุกฝ่ายไม่ควรมุ่งสนใจเรื่องตัวลบุคคล และยืนยันว่าการปรับ ครม. จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น