ความคืบหน้ากรณีเหตุการณ์ช้างป่าทำร้าย ชาวบ้านสองคน เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บสาหัสอีก 1 คน ขณะออกไปกรียดยางในช่วงเช้ามืด เมื่อวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา
วันนี้ (22ธ.ค.2559) หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมด้วยตัวแทนชาวบ้านในพื้นที่ ได้หาทางออกเพื่อแก้ปัญหาร่วมกัน โดยนายอยู่ เสนาธรรม ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ชี้แจงว่า ที่ผ่านมามีการเวนคืนพื้นที่สร้างอ่างประแกลบจำนวน 11,100 ไร่ แต่พบว่ามีผู้บุกรุกเข้ามาทำมาหากิน โดยไม่ใช่ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอแก่งหางแมว และทำทุกวิถีทางเพื่อ ขับไล่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และยิงปืนไล่ช้างป่า พร้อมขอให้ทหาร ทำการตรวจสอบอย่างละเอียดว่า คนที่ทำมาหากินรอบอ่างเก็บประแกลบ เป็นคนในพื้นที่หรือไม่
นายอยู่ บอกว่า ทุกวันนี้ช้างป่า ยังคงอาศัยพื้นที่อ่างเก็บน้ำประแกลบ เป็นที่อยู่และออกหากิน และไม่มีการรวมตัวเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา แต่เป็นการกระจายตัวมากขึ้น เนื่องจากมีการจุดไฟเผาให้เกิดควันไฟ เพื่อไล่ช้างป่า ทำให้ขณะนี้ช้างป่าเริ่มมีอารมณ์เครียด ซึ่งอาจเข้าทำร้ายชาวบ้าน ได้อีกตลอดเวลา จึงเตือนว่าอาจจะเกิดอันตรายกับชาวบ้านในพื้นที่
ทั้งนี้ นอกจากบริเวณแก่งหางแมว ที่เจอปัญหาช้างออกจากป่าจนกระทบกับชาวบ้านแล้ว ยังพบว่าบริเวณตำบลพวา เป็นอีกพื้นที่ ที่ได้รับผลกระทบเรื่องช้างป่า ตัวแทนจากพื้นที่ ได้เสนอแนวความคิด เรื่องจะให้เป็นเส้นทางการท่องเทียวแห่งใหม่ ด้วยการชมช้างป่า ในพื้นที่บริเวณที่โขลงช้างป่าจำนวน 70 ตัวเดินผ่าน ในพื้นที่ 2 ไร่ ซึ่งจะใช้งบประมาณ 18 ล้านบาท แต่ติดขัดเรื่องงบประมาณ