สวนส้มธนาธร ในอำเภอฝาง และ สวนอมรมิตร รวมทั้ง สวนส้มบริษัทเชียงใหม่มิตรเกษตรในอ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ เป็นสวนส้มขนาดใหญ่ 3 แห่ง พื้นที่รวมเกือบ 6,000 ไร่ ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมจังหวัดเชียงใหม่ มีประกาศให้ออกจากพื้นที่ ตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 36/2559 เรื่องมาตการในการแก้ไขปัญหาการครอบครองที่ดิน ในเขตส.ป.ก.เกินกว่า 500 ไร่โดยมิชอบด้วยกฏหมาย
ที่ผ่านมาแม้เจ้าของจะร้องคัดค้านประกาศดังกล่าว โดยอ้างว่าสวนส้ม เป็นของเกษตรกรรายย่อย แต่ข้อเท็จจริงของสภาพพื้นที่สวนส้ม ซึ่งเป็นแปลงใหญ่ผืนเดียว และผู้ครอบครองไม่สามารถนำเอกสารสิทธิ์มาแสดงได้ ตามประกาศของ ส.ป.ก. จึงมีการยึดคืน และจัดที่ดินให้แก่สถาบันเกษตรกรในรูปแบบของสหกรณ์การเกษตร ตามคำสั่งของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นายสมปอง อินทร์ทอง เลขาธิการสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือส.ป.ก. ระบุว่า เบื้องต้นผู้ประกอบการสวนส้มทั้ง 3 แห่ง ให้ความยินยอม โดยไม่มีข้อโต้งแย้ง ขณะที่ผลผลิต ยังสามารถใช้ประโยชน์ได้ จึงไม่จำเป็นต้องรื้อถอน เนื่องจากจะเป็นประโยชน์แก่สหกรณ์ ที่จะเข้ามาดำเนินการต่อหลังจากนี้ และหากผู้ประกอบการเดิมต้องการผลผลิต ก็สามารถเข้ามาในรูปแบบเป็นคู่สัญญาการค้ากับทางสหกรณ์ในอนาคตได้
ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่เห็นด้วยที่รัฐดำเนินการยึดสวนส้ม และจะจัดสรรให้กับผู้ไม่มีที่ทำกิน แต่ยอมรับว่าไม่มีความรู้เรื่องการดูแลสวนส้ม หากจะต้องดูแลต่อต้องมีผู้เข้าไปให้ความรู้ในด้านต่างๆ
ด้าน นายศุภชัย สงชู นิติกรชำนาญการ สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดเชียงใหม่อธิบายว่า เมื่อผู้ประกอบการสวนส้มทั้ง 3 แห่ง ยินยอมคืนที่ดินแล้ว ในทางแพ่งคงไม่มีการฟ้องร้องเพิ่มเติม ขณะที่ การดำเนินคดีทางอาญา กรณีบุกรุก เนื่องจากผู้ประกอบการเข้าทำการเกษตรมานาน มากกว่า 30 ปีแล้ว จึงคาดว่าอายุความน่าจะหมดแล้วเช่นกัน
หลังจากนี้จึงจะเดินหน้าจัดสรรที่ดินในรูปสหกรณ์ โดยตรวจสอบคุณสมบัติของเกษตรกรที่เข้าข่ายได้รับมอบที่ดิน คนละ 6 ไร่ ส่วนคนงาน และพนักงานสวนส้มเดิม ก็จะเข้าทำงานกับสหกรณ์ที่ตั้งขึ้น โดยตั้งเป้าให้ดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนเมษายน 2560