วันนี้ (3 มี.ค.2560) นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังประชุมเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนรัฐวิสาหกิจว่า เดือนมีนาคม ซึ่งเป็นเดือนสุดท้ายของไตรมาสแรกของปี จึงจำเป็นต้องกระตุ้นการเบิกจ่ายงบลงทุนให้เห็นผลเป็นรูปธรรม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคเอกชน พร้อมกำชับรัฐวิสาหกิจเลื่อนแผนการลงทุนจากครึ่งปีหลัง เป็นครึ่งปีแรก วงเงินประมาณ 4,400 ล้านบาท และโครงการในอนาคตที่ไม่อยู่ในแผนลงทุนปีนี้อีกกว่า 15,000 ล้านบาท และแม้โครงการลงทุนก่อสร้างรถไฟทางคู่ 5 เส้นทางของการรถไฟแห่งประเทศไทย มูลค่าเกือบ 100,000 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบความโปร่งใสของคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้าง ตามมาตรา 44 ที่มีนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นประธานนั้น เชื่อว่าไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมการลงทุนปีนี้
ด้านนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กล่าวว่า ที่ประชุมฯ ตั้งเป้าหมายเบิกจ่ายงบลงทุนรัฐวิสาหกิจ ไตรมาสแรก เพิ่มร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นวงเงิน 55,000 ล้านบาท จากที่เบิกจ่ายไปแล้ว เมื่อสิ้นเดือนมกราคม 2560 ประมาณ 32,000 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 73 ของแผนการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสม พร้อมยอมรับว่าแม้จะกดดันให้รัฐวิสาหกิจปรับปรุงประสิทธิภาพการเบิกจ่ายงบลงทุน แต่รัฐวิสาหกิจกลุ่มเดิมๆ บางแห่ง ยังคงเบิกจ่ายล่าช้า ไม่ได้ตามเป้าหมาย โดยเฉพาะการรถไฟแห่งประเทศไทย จึงเตรียมพิจารณาใช้เครื่องมือการให้รางวัลและลงโทษสำหรับผู้บริหาร เพื่อให้เศรษฐกิจขยายตัวตามยุทธศาสตร์ที่วางไว้