ความคืบหน้ากรณี “ต้นลุง” ไม้ในสกุลไทร อายุกว่า 30 ปี ล้มทับเสาไฟฟ้าจนหักโค่นและล้มทับ ทำให้มีคนเสียชีวิต 1 ราย วันนี้(16 พ.ค.2560) นายประลอง ดำรงค์ไทย โฆษกกระ ทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ ทส. บอกว่า พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐ มนตรีว่าการกระทรวง ทส.ได้สั่งการให้กรมป่าไม้ ติดตาม และร่วมแก้ปัญหากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกรมป่าไม้ ได้ร่วมติดตามและประสานความร่วมมือด้านวิชาการแก้ปัญหาแล้ว
หลังจากนี้กรมป่าไม้ จะทำหนังสือประสานไยัง กทม. และกระทรวงมหาดไทย เพื่อเร่งตรวจสอบต้นไม้ขนาดใหญ่ ตั้งแต่ 1 คนโอบ หรือเส้นวงรอบ 200 เซนติเมตรหรือ 2 เมตรขึ้นไป ในกรุงเทพฯ และตามหัวเมืองใหญ่ ที่อยู่ในจุดที่ประชาชนสัญจรไปมาเป็นพิเศษ
หากพบต้องปรับสมดุลระบบเรือนยอดให้สมดุล กับระบบราก ไม่ให้มีเรือนยอดมากเกินไป หรือต้นไม้เอน รวมถึงดูระบบดินว่าอมน้ำมากเกินไปหรือไม่ซึ่งหากพบจะเร่งแก้ไขทันที
ด้านนายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า จากการสำรวจไม้ยืนต้นในพื้นที่สาธารณะ ในความดูแลของ กทม. มีกว่า 3.1 ล้านต้น กระจายตามทางเท้า สวนสาธารณะ สวนหย่อม ซึ่งต้องดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด โดย กทม.มีมาตรการดูแลรักษาต้นไม้อย่างเป็นระบบไม่ให้เกิดอันตราย
ส่วนต้นไม้ขนาดใหญ่พื้นที่เอกชน ไม่สามารถเข้าไปบริหารจัดการได้ แต่พร้อมให้ความร่วมมือช่วยเหลือแนะนำในการดูแล สำหรับข้อสังเกตสำหรับประชาชนทั่วไปเพื่อป้องกันไม่ให้ได้รับอันตรายกับต้นไม้ใหญ่ที่อาจเกิดขึ้น หากอยู่ในสถานการณ์ที่มีฝนตกลมพัดแรง อย่าหลบใต้ต้นไม้เด็ดขาด เพราะถือเป็นพื้นที่อันตรายที่เสี่ยงต่อการถูกต้นไม้ล้มทับ
นอกจากนี้ยังมีวิธีการสังเกตต้นไม้ว่า อาจเกิดอันตรายได้มีกลายกรณี เช่น ลำต้นเอนออกมาจากศูนย์กลางของต้นมากๆ หรือ มีรากโผล่พ้นพื้น