วันนี้ (13 มิ.ย.2560) ในการประชุมคณะรัฐมนตรี กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะเสนอมาตรการดูแลราคายางพารา 4 แนวทาง ได้แก่
1.การขยายเวลาชำระหนี้ให้สถาบันเกษตรกรที่รวบรวมยางพารา 10,000 ล้านบาท ออกไปจนถึง 31 มีนาคม 2563
2. เร่งจ่ายเงินในโครงการชดเชยส่วนต่างให้ชาวสวนยางไร่ละ 1,500 บาท ให้เกษตรกร 11,460 ครัวเรือน
3.โครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตร วงเงิน 10,000 ล้านบาท เพื่อรับซื้อน้ำยางข้นจากเกษตรกรเก็บในสต็อค
4.โครงการสร้างมูลภัณฑ์กันชน จะขยายระยะเวลาไปถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2563 รวมถึงสนับสนุนสินเชื่อแก่ผู้ประกอบกิจการยาง 10,000 ล้านบาท ขยายออกไปเมษายน 2562 เพื่อจัดซื้อยางแผ่นดิบใช้ในภาคอุตสาหกรรม
นายธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทยระบุว่า มาตรากรดังกล่าวจะช่วยให้ราคาปรับดีขึ้นได้ และยอมรับว่ายางพาราปรับลดลงรวดเร็วมีความผิดปกติ เพราะเท่าที่ตรวจสอบพบว่า ปริมาณและความต้องการสมดุลกัน แต่ไม่อยากให้เกษตรกรตื่นตระหนก เพื่อลดกระแสข่าวเชิงลบและกดราคายางพาราในประเทศอีก
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ ได้เชิญทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องมาหารือถึงแนวทางการใช้ยางพาราในประเทศที่เพิ่มขึ้น โดยตั้งเป้าหมายการใช้เพิ่มมากขึ้นจากปีที่ผ่านมา ที่มีการใช้ประมาณ 9,000 กว่าตัน โดยจะขอความร่วมมือกับทุกกระทรวงพิจารณาจัดซื้อสินค้าหรือวัตถุดิบจากยางในประเทศ หลังกระทรวงอุตสาหกรรมได้ออกมาตรฐานสินค้า มอก.ในหลายผลิตภัณฑ์เพิ่มมากขึ้น