วานนี้(13 มิ.ย.2560) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ได้พูดคุยถึงปัญหาทุจริตเงินอุดหนุนวัด ที่ได้รับจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือ พศ. มีความคืบหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 90 ในการสอบสวนเรื่องนี้ ขอสังคมอย่ากังวลใจ โดยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงยุติธรรม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) และมหาเถรสมาคม (มส.) ได้หารือร่วมกันมาตลอด ทั้งการขึ้นทะเบียนบัญชีทรัพย์สินของวัด รวมถึงการตรวจสอบรายได้ของวัด โดยจะนำกรณีวัดที่มีปัญหามาตรวจสอบก่อนอันดับแรก โดยขอให้ทุกฝ่ายรอผลการตรวจสอบของผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้
สปท.เสนอ มส.ให้ออกมติแก้ปัญหา"บัญชีวัด"
ด้าน นายบวรเวท รุ่งรุจี ผู้ช่วยโฆษกกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านกีฬา ศิลปะ วัฒนธรรม การศาสนา คุณธรรมและจริยธรรม สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ หรือ สปท. แถลงว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบรายงานเรื่อง "การพัฒนาระบบการบริหารทรัพย์สินของวัดให้เป็นไปตามมาตรฐาน" สาระสำคัญคือเสนอให้แก้ไข พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 มาตรา 40 และแก้ไขปรับปรุงกฎกระทรวงพ.ศ.2511 ข้อที่ 8 เกี่ยวกับการจัดทำบัญชีทรัพย์สินของวัด เพื่อให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เข้าไปตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของวัดได้
นายบวรเวท บอกด้วยว่า ด้วยเหตุการณ์ยักยอกเงินวัดที่กำลังเป็นข่าว การแก้ไขกฎหมายอาจไม่ทันต่อเวลา คณะกรรมาธิการฯ จึงมีความเห็นเสนอให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติประสานกับ มหาเถรสมาคม หรือ มส.ให้ออกมติเพื่อแก้ไขปัญหา เพราะ มส.มีการประชุมทุก 10 วัน สามารถออกมติแล้วดำเนินการได้ทันที
โดยมติที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯ วันนี้ จะนำเสนอต่อไปยัง ครม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาต่อไปนายประจักษ์ บุญยัง รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง.ยอมรับว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะตรวจสอบพบการทุจริตงบอุดหนุนวัด เพราะ สตง.จะใช้วิธีการสุ่มตรวจการใช้เงินงบประมาณของแต่ละหน่วยงาน โดยประเมินจากความเสี่ยงแล้ว แต่วัด ไม่ใช่หน่วยราชการ จึงไม่มีกฎระเบียบของทางราชการ ที่ให้ยึดเป็นแนวปฏิบัติที่ชัดเจน
อย่างไรก็ตาม รองผู้ว่า สตง.ก็ยืนยันว่า สตง.มีกระบวนการตรวจสอบ โดยตรวจสอบย้อนหลังหน่วยงานที่ยังไม่เคยถูกตรวจสอบ เพื่อตรวจทานว่า มีการใช้จ่ายเงินงบประมาณถูกต้องเหมาะสมหรือไม่