วันนี้ (3 ก.ค.2560) นายอรรถพล เจริญชันษา รองอธิบดีกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยา กรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่าจากกรณีการเข้าทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองทุ่งมะพร้าว ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา จำนวน 2,000 ไร่ เพื่อก่อสร้างสนามบินพังงา ของบริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบริษัทบางกอกแอร์เวย์ ล่าสุดนายชลธิศ สุรัสดี อธิบดีกรมป่า มีข้อสรุปว่า ทางกรมป่าไม้จะทำหนังสือส่งกลับไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เพื่อให้จัดทำข้อมูลการขอใช้พื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติใหม่ เนื่องจากขณะนี้ยังมีรายละเอียดต่างๆไม่ครบถ้วน รอบด้าน ทั้งการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ซึ่งยังไม่สามารถนำเข้าสู่กระบวนการพิจารณาขออนุญาตตามขั้นตอนได้
นายอรรถพล บอกว่า ส่วนกรณีที่มีการระบุว่าป่าคลองทุ่งมะพร้าว เป็นป่าเสื่อมโทรม กรมป่าไม้มีหลักเกณฑ์การประเมินอยู่แล้วว่าแบบไหนถึงจะเรียกว่าเสื่อมโทรม กรณีพื้นที่นี้มีชาวบ้านรุกรุกทำกิน ทำสวนปาล์มมาแต่ไม่ได้หมายความว่าการบุกรุกแล้วจะนำไปสู่ความชอบธรรมให้นำไปใช้ก่อสร้างสนามบิน หรือโครงการขนาดใหญ่ได้ รอบๆพื้นที่นี้ยังติดกับป่าชายเลนรอบๆซึ่งอาจจะได้รับผลกระทบได้ การแก้ปัญหาพี่น้องประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ รวมถึงการขออนุญาตและข้อกฎ หมายเรื่องการอนุญาตสร้างสนามบิน ดังนั้นจึงต้องถามความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยว ข้อง และพิจารณาทุกอย่างรอบด้านละเอียด ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ยังไม่ครบถ้วน จึงต้องส่งให้จังหวัดกล้บไปทำข้อมูลใหม่ให้ครบถ้วนก่อนจะขออนุญาตใช้ประโยชน์ในที่ดินแปลงนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายชลธิศ ยืนยันว่ากรมป่าไม้ยังไม่มีการพิจารณาอนุญาตใดๆ กับบางกอกแอร์เวย์ เข้าทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองทุ่งมะพร้าว ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา จำนวน 2,000 ไร่ เพื่อก่อสร้างสนามบินพังงา เนื่องจากโครงการนี้เป็นโครงการที่ต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรืออีไอเอ ประกอบการพิจารณา แต่ที่ผ่านมาการยื่นคำขออนุญาต ยังไม่มีการจัดทำอีไอเอ และการก่อสร้างสนามบิน เป็นโครงการขนาดใหญ่เกี่ยวข้องกับหลายภาคส่วน