นนี้ (7 ก.ค.2560) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ เดินทางมาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อร่วมรับฟังการไต่สวนพยานฝ่ายจำเลยนัดรองสุดท้าย ในคดีการปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว โดยยืนยันว่า มั่นใจในตัวพยานที่จะมาสืบต่อศาล และหวังว่า จะยังสามารถนำพยานเข้าสืบต่อศาลได้อย่างครบถ้วน ซึ่งในวันนี้ 1 ในพยานปากสำคัญ คือ นายนิวัติธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่อยู่ในตำแหน่งตั้งแต่เริ่มต้นโครงการรับจำนำข้าว โดยจะให้ข้อมูลในภาพรวมเกี่ยวกับโครงการ
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังเปิดเผยว่า เตรียมจะขอยื่นแถลงปิดสำนวนคดีด้วยวาจา ซึ่งจะขอปรึกษากับทีมทนายก่อน โดยขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลว่าจะอนุญาตหรือไม่ ส่วนจะขอขยายสืบพยานเพิ่มหรือไม่ ยังไม่ทราบ เพราะจะต้องขึ้นอยู่กับระยะเวลาการไต่สวน ส่วนความคืบหน้าคดีทางละเมิดนั้น ได้ยื่นต่อศาลปกครองซึ่งอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาล
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังกล่าวถึงกระแสว่ามีชื่อของนางมณฑาทิพย์ โกมุทเจริญกุล หรือ นางเยาวมาลย์ ชินวัตร พี่สาวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์. ที่จะมาเป็นแม่ทัพของพรรคเพื่อไทยว่า หลายชื่อที่ปรากฏนั้น ถือเป็นสิ่งที่ดีแต่ก็ยังจะต้องรอความชัดเจนจนกว่ากำหนดการเลือกตั้งจะชัดเจน ส่วนการลดข้อครหาว่าพรรคเพื่อไทยเป็นของตระกูลชินวัตร ด้วยการเชิญคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย มาเป็นผู้นำของพรรคเพื่อไทยนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุว่า ทุก ๆ คนในพรรคล้วนมีความสามารถ แต่ในพรรคเพื่อไทยก็จะมีกลไกอยู่แล้ว
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายความมั่นคงกังวลที่การไต่สวนพยานนัดสุดท้ายในวันที่ 21 ก.ค.จะมีมวลชนมาให้กำลังใจจำนวนมากจนต้องเพิ่มกำลังรักษาความปลอดภัย โดยเชื่อว่า มวลชนที่มาให้กำลังใจนั้น มาด้วยความห่วงใยและผูกพันธ์ต่อกัน ซึ่งบรรยากาศในวันั้น ได้ขอให้ทุกคนปฏิบัติตามมติของศาล และ คสช .อยู่แล้ว และขอบคุณประชาชนทุกคนที่มอบกำลังใจให้ ซึ่งถือเป็นน้ำใจคนไทยที่มอบให้
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังยืนยันว่า แม้คดีใกล้จะถึงการพิพากษาเข้ามาทุกทีแต่กำลังใจยังดีอยู่ และเป็นส่วนสำคัญที่จะให้ต่อสู้เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ว่าตน ไม่ได้ปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตในคดีนี้