วันนี้(1 ส.ค.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลยที่ 1 ได้แถลงปิดคดีด้วยวาจา คดีสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือ พธม.โดยอ้างอิงถึงความจำเป็นที่ต้องแถลงนโยบายที่รัฐสภา หลังได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ถูกผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ ขัดขวาง และเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต
แต่ยืนยัน ไม่มีคำสั่งใดที่ละเมิดกฎหมาย และไม่ได้สั่งการให้ใช้แก๊สน้ำตาที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หลังนายสมชาย แถลงปิดคดี ศาลฎีกาฯ นัดให้จำเลยที่ 2 ถึง 4 ส่งเอกสารคำแถลงปิดคดีภายในวันที่ 20 ก.ค.นี้พร้อมนัดฟังคำพิพากษาวันพรุ่งนี้ ( 2 ส.ค.)
คดีนี้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องจำเลยที่ 1 ถึง 4 ในคดีปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และพ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ปี 2542 ประกอบด้วย นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี, พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี, พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.ท. สุชาติ เหมือนแก้ว อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล
ตามฐานความผิดในข้อกล่าวหานั้น อ้างอิงจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ปี 2551 ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คนและมีผู้บาดเจ็บ รวม 471 คน ทั้งนี้นายสมชาย ได้ใช้สิทธิ์แถลงปิดคดีด้วยวาจา เพียงคนเดียว ขณะที่จำเลยอีก 3 คน ได้ส่งคำแถลงปิดคดีเป็นลายลักษณ์อักษร เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา
คดีนี้เดิมโจทก์ส่งบัญชีรายชื่อพยานบุคคล 66 ปาก และจำเลยส่ง 954 ปาก แต่หลังศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดตรวจพยานรวม 5 ครั้ง ให้คงเบิกความพยานฝ่ายโจทก์ 28 ปาก ขณะที่ฝ่ายจำเลย 106 ปาก และกำหนดไต่สวนนัดแรก 8 เม.ย. 2559 สิ้นสุดนัดสุดท้าย 28 เมษายน 2560 จากนั้นก็นัดฟังคำพิพากษา วันพรุ่งนี้( 2 ส.ค.)