ขณะที่มีรายงานว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นัดถกวาระแนวทางอุทธรณ์คดีสลายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือไม่ในวันพรุ่งนี้ (29 ส.ค.2560) หลังเพิ่งได้รับคำพิพากษาฉบับเต็มและคำวินิจฉัยส่วนตนขององค์คณะผู้พิพากษา
หลังจากเจ้าหน้าที่สำนักคดีของ ป.ป.ช.ได้รับคำพิพากษาฉบับเต็มและคำวินิจฉัยส่วนตนในคดีสลายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2551 จากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค.เป็นต้นมา ซึ่งก็ได้รวบรวมสำนวนทั้งหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยในวันพรุ่งนี้ ป.ป.ช.จะได้นำคดีดังกล่าวบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระที่ประชุม เพื่อพิจารณาแนวทางการอุทธรณ์คดี ตามบทบัญญติรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
ขณะที่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (24 ส.ค.) อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนนัดหารือต่อกรณีการเพิกเฉยการอุทธรณ์คดีการสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ต.ค.2551 โดยอดีตแกนนำพันธมิตร เรียกร้อง ให้ ป.ป.ช. จัดประชุมเพื่อลงมติอุทธรณ์คดีการสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ต.ค.2551 และเรียกร้องให้ ป.ป.ช. ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในการขยายระยะเวลาอุทธรณ์ออกไปอีก 30 วัน พร้อมกับขอให้คณะทำงานและทีมกฎหมายของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการทำงานของทีมกฎหมายของ ป.ป.ช. โดยมีมติมอบหมายให้นายวีระ สมความคิด เป็นตัวแทนส่งหนังสือให้กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติในวันนี้
สำหรับคดีดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 2 ส.ค. 2560 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษายกฟ้องคดีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ยื่นฟ้องนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริต เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 จากการสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน บาดเจ็บอีก 471 คน