วันนี้ (27 ก.ย.2560) นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณีความเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าวกว่า 35,000 ล้านบาทที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องชดใช้ ตามคำสั่งคณะกรรมการรับผิดทางแพ่งว่า กระทรวงการคลังยังคงเดินหน้าสืบทรัพย์ที่ยังหลงเหลือ โดยส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ถ่ายรูปทรัพย์สิน บ้าน รถ อาคารชุด ที่ดิน เพื่อเป็นหลักฐานให้กรมบังคับคดีดำเนินการ จากที่ยึดเงินฝากไปแล้ว 12 บัญชี ตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคม ล่าสุด กระทรวงฯ ส่งข้อมูลให้กรมบังคับคดียึดทรัพย์รายการใหม่ๆ เพิ่มเติมแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
ก่อนหน้านี้ กระทรวงการคลังกับกรมบังคับคดี เห็นต่างในขั้นตอนการดำเนินการยึดทรัพย์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยกระทรวงการคลัง มองว่าควรเทียบเคียงกระบวนการยึดทรัพย์กับคดีของนายทักษิณ ชินวัตร พร้อมภริยา กว่า 46,000 ล้านบาท จากการใช้อำนาจของพระราชกำหนดลดภาษีสรรพสามิตสัมปทานโทรคมนาคม และปกปิดการถือหุ้นชินคอร์ป สร้างความเสียหายภาครัฐ ซึ่งคดีนั้นกรมบังคับคดีออกคำสั่งยึดทรัพย์ทันที หลังได้รับคำยืนยันมูลค่าความเสียหายที่ต้องชดใช้ จนสามารถยึดทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดินได้ทั้งหมด
แต่คดีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กรมบังคับคดี กลับให้กระทรวงการคลังในฐานะประธานคณะกรรมการรับผิดทางเพ่งเป็นผู้ดำเนินการ แต่กระทรวงการคลังไม่เห็นด้วย จึงส่งหนังสือชี้แจงกับกรมบังคับคดีไปมา จนนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ชี้ทางออกข้อกฎหมาย ก่อนสรุปให้กระทรวงการคลังปฏิบัติตามความเห็น และเงื่อนไขต่างๆ ของกรมบังคับคดี รวมทั้งตั้งคณะกรรมการสืบทรัพย์ ประกอบด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ป.ป.ช., สถาบันการเงิน, กรมที่ดิน ร่วมกันตรวจสอบทรัพย์ ลงพื้นที่ถ่ายภาพบันทึกหลักฐาน และแจ้งกลับให้กระทรวงการคลัง และกรมบังคับคดีตามลำดับ ส่งผลให้การยึดทรัพย์ในคดีนี้ล่าช้า แม้มีอายุความ 10 ปี ก็ตาม