โจเซฟ ลอมบาร์โด นายอำเภอลาสเวกัส ระบุว่า นายสตีเฟน แพดด็อก ใช้เวลาก่อเหตุกราดยิงฝูงชนที่เข้าร่วมคอนเสิร์ตกลางแจ้งในลาสเวกัส นานประมาณ 9 นาที ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปอย่างน้อย 59 คน และได้รับบาดเจ็บมากกว่า 500 คน
นอกจากนี้ ผู้ก่อเหตุยังได้ติดตั้งกล้องทั้งภายในและภายนอกห้องพักของโรงแรมเพื่อดูความเคลื่อนไหว และยืนยันว่าผู้ก่อเหตุใช้บัมพ์ สตอคส์ ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริมที่ช่วยให้ปืนกึ่งอัตโนมัติสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องไม่ต่างจากปืนกลอัตโนมัติ
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่และผู้เห็นเหตุการณ์ตั้งข้อสังเกตว่า ผู้ก่อเหตุน่าจะใช้หรือดัดแปลงอุปกรณ์เสริมกับปืนกึ่งอัตโนมัติของตัวเองในการก่อเหตุสะเทือนขวัญในครั้งนี้ เนื่องจากลักษณะการยิงเป็นชุดเหมือนกับปืนกล ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
ขณะที่พนักงานสอบสวนต้องการสอบปากคำแมรีลู แดนลีย์ เพื่อนสาวคนสนิทของนายแพดด็อก ซึ่งอาศัยอยู่ที่ฟิลิปปินส์ หลังจากสื่อท้องถิ่นรายงานว่า ผู้ก่อเหตุได้โอนเงิน 100,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 3.3 ล้านบาท ไปยังฟิลิปปินส์ แต่ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเงินจำนวนนี้ถูกโอนไปให้กับแมรีลู แดนลีย์ หรือไม่
ด้านนายมิทช์ แมคคอนแนล แกนนำสมาชิกวุฒิสภาพรรครีพับลิกัน ระบุว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะอภิปรายเกี่ยวกับการออกกฎหมายควบคุมอาวุธปืน เนื่องจากการหยิบยกประเด็นดังกล่าวขึ้นมาหารือในช่วงเวลานี้ยังไม่เหมาะสม
ความเคลื่อนไหวของนายแมคคอนแนล เกิดขึ้นหลังจากสมาชิกวุฒิสภาจากพรรคเดโมแครตเรียกร้องให้บังคับใช้กฎหมายควบคุมอาวุธปืน ซึ่งรวมไปถึงการซื้อ-ขายอุปกรณ์เสริมประเภทต่างๆ ที่เพิ่มศักยภาพในการใช้ปืน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้อีกในอนาคต
ขณะที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ระบุว่า ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า นายแพดด็อกมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มรัฐอิสลาม หรือไอเอส ตามข้ออ้างจริงหรือไม่ หลังจากกลุ่มไอเอสอ้างว่าผู้ก่อเหตุเป็นนักรบคนหนึ่งของกลุ่มไอเอสแต่ไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ เพิ่มเติม