รัฐบาลเชิญชวนประชาชนเข้าชมนิทรรศการพระเมรุมาศ ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ พร้อมแนะผู้เข้าชมให้ความร่วมมือปฏิบัติตามกฎ มีน้ำใจเอื้ออาทร และใช้โอกาสเรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่มีคุณค่า
วันนี้ (4 พ.ย.2560) รัฐบาลเชิญชวนประชาชนเข้าชมนิทรรศการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในระหว่างวันที่ 2 - 30 พ.ย.60 ณ ท้องสนามหลวง ตั้งแต่เวลา 07.00 - 22.00 น. เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 9 และสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย พร้อมกับศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับโครงการพระราชดำริ และพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่า
“ในช่วง 2 วันที่ผ่านมาพบว่า การเข้าชมนิทรรศการและพระเมรุมาศโดยรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย รัฐบาลอยากให้นิทรรศการครั้งนี้เป็นกิจกรรมที่อยู่ในความทรงจำอันน่าประทับใจของประชาชน จึงไม่ต้องการกำหนดกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดมากเกินไป แต่อย่างไรก็ตามพบว่า มีผู้เข้าชมบางส่วนอาจแสดงกิริยาไม่สำรวมหรือจับต้องสิ่งของที่จัดแสดง ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายวัตถุต่าง ๆ ได้ ประกอบกับแต่ละวันมีผู้เข้าชมเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องจัดระเบียบการเข้าชมเพื่อให้เกิดความเรียบร้อยและสมพระเกียรติ โดยแม้ปัจจุบันจะไม่ได้เปิดให้เข้าชมองค์พระเมรุมาศบริเวณชั้น 1 และ 2 แล้ว แต่ประชาชนยังสามารถเดินชมโดยรอบพระเมรุมาศและอาคารประกอบ รวมทั้งยังคงถ่ายภาพได้ตามปกติ”
สำหรับผู้ที่จะเข้าชมพระเมรุมาศจะต้องเดินผ่านจุดคัดกรองที่มีอยู่ 5 จุด ได้แก่ บริเวณหน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์ ท่าช้าง หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และด้านหลังกระทรวงกลาโหม เพื่อเข้าสู่เต้นท์พักคอยที่จัดไว้รองรับ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะแบ่งประชาชนออกเป็นชุด ๆ ละ 300 คน โดยให้เข้าชมชุดละ 45 – 60 นาที เริ่มเดินวนด้านซ้ายตลอดองค์พระเมรุมาศเพื่อเข้าชมนิทรรศการในศาลาลูกขุน แล้วเข้าชมพระที่นั่งทรงธรรม ก่อนเดินผ่านด้านหลังพระที่นั่งออกไปที่ท้องสนามหลวงด้านทิศใต้ฝั่งตรงข้ามศาลหลักเมือง ซึ่งทุกคนสามารถชมนิทรรศการได้อย่างครบถ้วน
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ฝากให้พี่น้องประชาชนที่จะเข้าชมนิทรรศการปฏิบัติตามระเบียบและคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยและเหมาะสม ทั้งการแต่งกายที่สุภาพ การแสดงกิริยาอาการที่สำรวม ไม่จับต้องสิ่งของที่จัดแสดง รวมทั้งควรมอบน้ำใจเอื้ออาทรให้แก่กัน เนื่องจากในแต่ละวันมีผู้เข้าชมเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีอยากให้คนไทยใช้โอกาสนี้เก็บเกี่ยวความรู้เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยและสิ่งที่พระองค์ท่านได้ทำเพื่อประเทศชาติและประชาชน ตลอดจนแนวคิดและการสร้างสรรค์สถาปัตยกรรมไทยที่วิจิตรงดงาม ซึ่งได้สืบทอดเป็นมรดกแก่ลูกหลานมาจนถึงปัจจุบัน ส่วนข้อเสนอของสังคมที่อยากให้ขยายระยะเวลาการเข้าชมนิทรรศการออกไปอีกนั้น รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้พิจารณาตามความเหมาะสมต่อไป