วันนี้ (10 พ.ย.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำริให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการประมวลภาพเหตุการณ์แห่งความทรงจำ นับแต่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เสด็จสวรรคต ซึ่งบันทึกไว้ตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม 2559 เป็นต้นมา เพื่อรวบรวมไว้เป็นเครื่องแสดงให้เห็นถึงความจงรักความภักดี ความศรัทธาของปวงพสกนิกร และจะเป็นหลักฐานสำคัญทางประวัติศาสตร์ของชาติ
โดยมีพระราชดำริให้มีการนำภาพที่จัดส่ง มาทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายไปจัดแสดงให้ประชาชนได้ร่วมกัน น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงมีต่อประชาชนชาวไทยและประเทศชาติตลอดไป
สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนทุกหมู่เหล่า ทั้งในประเทศและต่างประเทศทั่วทุกมุมโลก ร่วมส่งภาพแห่งความทรงจำในมุมมองต่างๆ ที่ได้บันทึกภาพไว้นับแต่วันเสด็จสวรรคตวันที่ 13 ตุลาคม 2559 โดยสามารถจัดส่งภาพเป็น 2 ช่วง
ช่วงแรก ตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม 2559 ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2560 มีผู้ส่งรูปภาพทั้งหมด 5,674 ภาพ และคณะกรรมการได้คัดเลือกภาพ จำนวน 1,450 ภาพ เพื่อเผยแพร่ในเว็บไซต์ photokingrama9.ohm.go.th และจะนำไปจัดแสดงให้ประชาชนได้ร่วมกันน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงมีต่อประชาชนชาวไทยและประเทศชาติตลอดไป
ช่วงที่สอง หลังพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ จะส่งภาพได้จนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน โดยส่งผ่านเว็บไซต์ photokingrama9.ohm.go.th หรือทางไปรษณีย์ ที่สำนักงานราชเลขานุการในพระองค์ 904 พระที่นั่งอัมพรสถาน ฝ่ายทะเบียนกองกลาง อาคาร 601 สำนักพระราชวัง เขตดุสิต และกองเผยแพร่พระราชกรณียกิจ สำนักพระราชวัง เขตพระนคร
ส่วนการเข้าชมนิทรรศการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ตลอดทั้งวัน นอกจากจะมีประชาชนจากทั่วสารทิศเดินทางเข้าชมอย่างต่อเนื่อง ยังมีนักท่องเที่ยวต่างชาติหลั่งไหลเข้ามาชมความงดงามของพระเมรุมาศอย่างต่อเนื่อง
เจ้าหน้าที่แนะนำให้ผู้เข้าชมทรรศการฯ ห้ามเซลฟี่ ถ่ายรูปได้แต่ต้องอยู่ในกิริยาที่เหมาะสม และห้ามจับสิ่งของที่จัดแสดง ส่วนการแต่งตัวให้เป็นเช่นเดียวกับการเข้าชมวัดพระแก้ว ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี จากผู้เข้าชมทั้งชาวไทยและต่างชาติ
สำหรับจำนวนผู้เข้าชมทั้งหมด ตั้งแต่วันที่ 2 - 8 พ.ย. รวม 7 วัน มีประชาชนเข้าชมแล้ว 332,199 คน