วันนี้ (6 ธ.ค.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงกรณีโครงการจัดซื้อรถโดยสารประจำทางปรับอากาศที่ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ หรือ เอ็นจีวี พร้อมซ่อมแซมและบํารุงรักษา จํานวน 489 คัน วงเงิน 4,020 ล้านบาทว่า ได้สั่งการให้ ขสมก.ดำเนินการเรื่องนี้ ตาม พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้าง โดยในวันที่ 7 ธันวาคมนี้ ขสมก.ได้เชิญเอกชน 9 ราย มายื่นเสนอราคาในการประมูล โดยใช้วิธีจัดหาด้วยวิธีการคัดเลือก ซึ่งเป็นกระบวนการลำดับที่ 2 ของ พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้าง หลังจากที่ดำเนินการประกวดราคาไม่สำเร็จเพราะไม่มีผู้ยื่นเสนอราคา
แต่หากในวันที่ 7 ธันวาคม มีเอกชนเสนอราคาเข้ามารายเดียว และเสนอวงเงินเกินราคากลาง ทางคณะกรรมการ ขสมก. ก็สามารถดำเนินการในการเจรจาต่อรองได้ และพิจารณาว่าราคาเหมาะสมหรือไม่ แต่หากดำเนินการแล้วไม่ได้ตัวเอกชนจริงๆ ก็ต้องมาประเมินข้อเท็จจริงว่าเกิดจากปัจจัยใด ซึ่งอาจต้องปรับข้อเสนอรายละเอียดทีโออาร์อีกครั้ง
นายประยูร ช่วยแก้ว รักษาการผู้อำนวยการ ขสมก. กล่าวว่า ก่อนหน้านี้การเปิดประมูลที่ผ่านมา สาเหตุหลักที่ไม่ประสบความสำเร็จ มี 2 เรื่องคือ ราคากลาง เนื่องจากเอกชนที่เข้ามาประมูลยืนยันว่าเป็นราคากลางที่ต่ำเกินไป และจากการสอบถามบริษัทที่ขายรถทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ก็ยืนยันเหมือนกันว่าราคากลางที่ ขสมก. กำหนดค่อนข้างต่ำ ทำให้เอกชนประสบปัญหาเรื่องการขาดทุน นอกจากนี้ยังมีเรื่องหลักประกันสัญญา ซึ่ง ขสมก. กำหนดให้วางหลักประกันไว้ 10 ปี ตั้งแต่ราคารถจนถึงราคาซ่อมบำรุงรักษา