ปฏิบัติการบุกเข้าตรวจค้นสถานบริการอาบอบนวด วิคตอเรีย ซีเครท ย่านวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา แม้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นเจ้าของคดีและนำเข้าตรวจค้น พร้อมเจ้าหน้าที่กรมการปกครอง แต่ผู้แฝงตัวเข้าพื้นที่สืบหาข้อมูลพิสูจน์การลักลอบค้ามนุษย์ ในสถานบริการแห่งนี้นานนับเดือน คือ องค์กรต่อต้านการค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นองค์กรสาธารณะกุศล ต่อต้านการค้ามนุษย์ทางเพศโดยเฉพาะ กระทั่งได้ข้อมูลแน่ชัด จึงร้องเรียนไปยังดีเอสไอ
นายรณสิทธิ์ พฤกษยาชีวะ ผู้อำนวยการฝ่ายสืบสวน องค์กรต่อต้านการค้ามนุษย์ เปิดเผยว่า เอกสารบันทึกรายการให้บริการลูกค้าที่พบในคอมพิวเตอร์ของกลางจากวิคตอเรีย ซีเครท มีการระบุตำแหน่งของผู้รับบริการ ซึ่งเป็นตำแหน่งข้าราชการตำรวจ และนี่คือสาเหตุที่องค์กรไม่เคยขอความช่วยเหลือตำรวจ ในการเข้าตรวจค้นสถานบริการ
ด้านคดีความพนักงานสอบสวนดีเอสไอ จับผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 6 คน ฝากขังไปแล้ว 1 คน ส่วนกรณีที่พบตำแหน่งข้าราชการตำรวจอยู่ในรายการรับผลประโยชน์และเข้าใช้บริการ ต้องพิสูจน์ให้ทราบตัวบุคคล ก่อนจะดำเนินการเรียกสอบถามข้อเท็จจริง
ส่วนสถานบริการอาบอบนวด วิคตอเรีย ซีเครท เจ้าหน้าที่กรมการปกครอง ใช้มาตรการทางปกครอง ปิดสถานบริการไปแล้ว จากนี้จะมีการรวบรวมทรัพย์สินเพื่อพิสูจน์ที่มา หากพบว่า ได้มาจากการค้ามนุษย์ จะส่งต่อให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) พิจารณายึดทรัพย์ให้ตกเป็นของแผ่นดิน ตามกฎหมายคดีการค้ามนุษย์
สำหรับการช่วยเหลือผู้ที่ถูกบังคับค้าประเวณีมีจำนวน 113 คน แยกเป็นชาวเมียนมา 96 คน ชาวลาว 11 คน ไทย 4 คน และจีนอีก 2 คน ทั้งหมดอยู่ระหว่างให้ข้อมูลเจ้าหน้าที่ ที่ศูนย์ฝึกอบรมและพัฒนางานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เพื่อคัดแยกกลุ่มคนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี กลุ่มคนที่ไม่มีเอกสารประจำตัว กลุ่มคนอายุเกิน 18 ปี แต่เอกสารประจำตัวต้องสงสัยว่า ออกให้ถูกต้องหรือไม่ ก่อนจะพิจารณาแนวทางช่วยเหลือ
ขณะเดียวกันวันนี้ พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล มีคำสั่งให้ตำรวจ สถานีตำรวจนครบาลวังทองหลาง ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ คือ ผู้กำกับการ รองผู้กำกับการสืบสวน, สารวัตรป้องกันปราบปราม 2 นาย และ สารวัตรสืบสวน มาช่วยราชการที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อให้การตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีความโปร่งใส และเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีผลตั้งแต่วันนี้ จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง