วันนี้ (19 ม.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อ่านคำพิพากษาในคดีที่ นายธาริต ผู้คัดค้าน ขณะดำรงตำแหน่งเป็นอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ไม่แสดงรายการทรัพย์สินที่อยู่ในความครอบครองของตนเองและคู่สมรส ประกอบด้วย เงินฝากในธนาคาร 4 บัญชี มีเงินรวมกว่า 5 ล้านบาท เงินลงทุนในหุ้นบริษัท 2 แห่ง มูลค่ากว่า 6 ล้านบาท สิ่งปลูกสร้างบนที่ดิน 2 แปลง รวม 2 ไร่ 50 ตารางวา ใน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท และเงินฝากในบัญชีธนาคารของคู่สมรสอีก 2 บัญชี เป็นเงินกว่า 6 ล้านบาท
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าการที่ผู้คัดค้านไม่แสดงรายการทรัพย์สินดังกล่าว ในการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินรวมถึงเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีทุก 3 ปี ที่อยู่ในตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นการปกปิดไม่แสดงรายการแห่งทรัพย์สินของตนเองและคู่สมรส เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ ปปช. ในฐานะผู้ร้อง ตรวจสอบพบ จึงมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าผู้คัดค้าน มีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น
องค์คณะผู้พิพากษามีมติเป็นเอกฉันท์ว่าการกระทำดังกล่าวของ นายธาริต ผู้คัดค้านเป็นการจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน อันเป็นเท็จที่ควรแจ้งต่อผู้ร้องทุกข์ 3 ปีที่อยู่ในตำแหน่ง อธิบดี ดีเอสไอ พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้องลงโทษจำคุก 6 เดือน ปรับ 10,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 3 เดือน ปรับ 5,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อนให้รอการลงโทษจำคุกไว้ มีกำหนด 2 ปี และห้ามผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นเวลา 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย.2560 อันเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่งที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
อ่านข่าวเพิ่มเติม
วิบากกรรม "ธาริต" ถูกไล่ออกจากราชการ