วันนี้ (14 ก.พ.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ลงนามในหนังสือคำสั่งกรมอุทยานฯ เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง การลักลอบเข้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก จ.กาญจนบุรี
หลังพบการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ในเขตรักษาพันธุ์ทุ่งใหญ่ฯ บนเส้นทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ฯ หน่วยพิทักษ์ป่าทิคอง-หน่วยพิทักษ์ป่ามหาราช ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ระหว่างวันที่ 3-4 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยมีการตรวจยึดจับกุมนายเปรมชัย กรรณสูต พร้อมพวกรวม 4 คน และได้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน ลงวันที่ 6 ก.พ. 2561
ทั้งนี้ กรมอุทยานฯ จึงได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมีนายปิ่นสักก์ สุรัสวดี รองอธิบดีกรมอุทยานฯ เป็นประธาน โดยให้คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง คือ 1.การดำเนินการขออนุญาตและอนุญาตเป็นไปตามอำนาจที่ได้รับตามคำสั่งกรมอุทยานฯ 1257/2559 ลงวันที่ 28 ส.ค.2559 หรือไม่อย่างไร
2.มีการสั่งการนอกเหนือคำสั่งกรมอุทยานฯ จนเป็นเหตุให้เกิดการกระทำผิดในกรณีดังกล่าวหรือไม่ อย่างไร 3.มีเจ้าหน้าที่และ หรือบุคคลใดแอบอ้างให้กลุ่มผู้กระทำผิดเข้าไปใช้พื้นที่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ฯ จนเป็นเหตุให้เกิดการกระทำผิดในกรณีดังกล่าวหรือไม่ อย่างไร และ 4.มีเจ้าหน้าที่ละเว้น ละเลยต่อการไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามอำนาจหน้าที่และ หรือเรียกรับผลประโยชน์จากการกระทำดังกล่าวหรือไม่ อย่างไร
โดยให้คณะกรรมการฯ ดำเนินการตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้ได้ความชัดเจนภายใน 30 วันทำการ แล้วรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงพร้อมพยานหลักฐาน และความเห็นให้กรมอุทยานฯ ทราบเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป
ด้านนายสมโภชน์ มณีรัตน์ โฆษกกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยถึงการสอบสวนที่มีการตั้งข้อสังเกต เรื่องของการขออนุญาตเข้าพื้นที่ว่า ได้รับรายงานว่า ทั้ง 4 คน ทำเอกสารเพื่อขออนุญาตเข้าพื้นที่แล้ว แต่เจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจ ยังไม่ได้พิจารณาอนุญาตให้เข้าพื้นที่ เนื่องจากติดช่วงเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งในเรื่องนี้ มีการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว
ส่วนกระแสข่าวว่ามีโทรศัพท์สายตรง ถึงหัวหน้ากรมอุทยานฯ เพื่อขอความอนุเคราะห์ให้อำนวยความสะดวกวีไอพีให้เข้าไปในพื้นที่ ยืนยันเท่าที่ได้รับรายงาน ยังไม่มีใครโทรศัพท์สายตรง แต่ยอมรับว่า ก่อนหน้านี้เคยมีการประสานขอให้เจ้าหน้าที่เข้าไปเพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าไปเยี่ยมชมธรรมชาติแบบไม่เกินเงื่อนไข ไม่มีการอำนวยความสะดวกเพื่อเข้าไปทำผิดกฎหมาย